มิตซูบิชิผนึกกำลังพันธมิตรหนุน มานะ พรศิริเชิด ขับปาเจโร สปอร์ต อีโวลู่ชั่น ลุยดาการ์ 2009
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จับมือพันธมิตรประกาศสนับสนุนมานะ พรศิริเชิด นักแข่งหนึ่งเดียวของไทย พร้อมรถแข่งคันใหม่ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลู่ชั่น เข้าร่วมการแข่งขันสุดยอดแรลลี่โลก “ดาการ์ 2009” หวังสร้างชื่อในศึกแรลลี่สุดหฤโหดอีกสมัย
มร.ทาคาอากิ คิชิอิ ผู้อำนวยใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการสนับสนุนนักแข่งไทยลงแข่งขันแรลลี่สุดหฤโหดรายการใหญ่ของโลก “ดาการ์ แรลลี่” ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ว่า บริษัทฯ จะยังคงให้การสนับสนุน “มานะ พรศิริเชิด” นักแข่งในสังกัด มิตซูบิชิ มอเตอร์สปอร์ต ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นนักแข่งดาการ์หนึ่งเดียวของไทยลงแข่งขันแรลลี่สุดหฤโหด “ดาการ์ แรลลี่” อีกครั้งในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย พร้อมเนวิเกเตอร์คนเดิม เธียรี่ ลาคอมบ์ และรถแข่งคันใหม่ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น (Pajero Sport Evolution) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ยนตรกรรมล่าสุดของมิตซูบิชิที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อเป็นรถคู่ใจคันใหม่ของมานะ โดยมีบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ผลิตภัณฑ์ตกแต่งรถยนต์ TFP และ ผลิตภัณฑ์ Oakley ร่วมให้การสนับสนุน และถึงแม้การแข่งขันในปีนี้มีจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การแข่งขันจากแอฟริกาไปยังสนามใหม่ในทวีปอเมริกาใต้ แต่ชื่อเสียงและตำนานของความเป็นดาการ์ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน พร้อมกับชื่อการแข่งขันที่ยังคงเป็น “ดาการ์ แรลลี” เหมือนที่เคยเป็นมา ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมั่นใจว่ามานะ พร้อมด้วยปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น จะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
“กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความสำคัญและดำเนินการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เราก็ได้สนับสนุนทีมเข้าแข่งขันรายการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ในส่วนของการเข้าร่วมการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ ในครั้งล่าสุดซึ่งถือเป็นปีที่ 11 ที่เราได้สนับสนุนนักแข่งชาวไทยเข้าร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะในปีนี้ บริษัทฯ ได้ตัดสินใจส่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ที่มีพื้นฐานมาจาก รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม รวมไปถึงเทคโนโลยีแห่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของรถคันนี้ในการแข่งขันแรลลี่หฤโหดระดับโลก สำหรับ มานะ พรศิริเชิด บริษัทฯ เข้าใจดีว่าการสนับสนุนนักแข่งไทยลงทำการแข่งขันในแต่ละครั้งนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่การลงแข่งในฐานะนักแข่งในสังกัดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย หากแต่เป็นการลงชิงชัยในฐานะตัวแทนของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตของไทยสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้” มร.คิชิอิกล่าว
สำหรับเส้นทางการแข่งขันในปีนี้จะเริ่มจากเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนติน่า ไปยังประเทศชิลีและกลับมาจบการแข่งขันที่ประเทศอาเจนติน่า รวมระยะทางประมาณ 6,000 กิโลเมตร โดยสภาพเส้นทางแข่งขันยังคงความหฤโหดไว้อย่างครบครันเนื่องจากเส้นทางที่แข่งขันจะอยู่บนภูเขาสูงและคดเคี้ยวในสภาพอากาศที่เบาบาง ซึ่งในบางสเตจจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 – 3,200 เมตร ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องวิ่งบนสภาพดังกล่าวเกือบ 1,000 กิโลเมตร และมีบางสเตจที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร อีกประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร นอกจากนี้ยังคงมีมนต์เสน่ห์ของความหฤโหดของทะเลทรายได้อย่างเป็นอย่างดี โดยทะเลทรายในอเมริกาใต้นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากทะเลทรายซาฮารา ในขณะที่ทะเลทรายในประเทศชิลีก็จะคล้ายกับสภาพของทรายในมอริทาเนีย นอกจากนี้สภาพเส้นทางบางส่วนจะคล้ายกับเส้นทางวิ่งในเซเนกัลที่มีต้นไม้และต้นกระบองเพชรขนาดใหญ่
มร.คิชิอิ กล่าวเสริมถึงการเตรียมความพร้อมของเจ้าหนึ่งมานะ สำหรับการแข่งขันดาการ์ 2009 ที่กำลังจะมาถึงว่าในตอนนี้ถือว่ามานะมีความพร้อมเกือบ 100% แล้ว ทั้งนี้ตลอดปีที่ผ่านมามานะได้มีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการลงแข่งขันรายการใหญ่ๆ ในประเทศเพื่อฝึกฝนเทคนิคการขับรถ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่แตกต่างไปจากเดิม โดยบริษัทได้ส่งมานะไปฝึกการปรับสภาพของปอดเพื่อให้ระบบการหายใจดียิ่งขึ้น รวมถึงเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อเตรียมรับสถาณการณ์ความกดอากาศต่ำในพื้นที่สูงซึ่งมีอากาศเบาบางมาก
“สำหรับการแข่งขันในปีนี้บริษัทฯ คาดหวังที่จะให้มานะสามารถขับรถเข้าไปโบกธงไทยที่เส้นชัยในประเทศอาเจนติน่าให้ได้เป็นผลสำเร็จ เพราะอย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ ถือเป็นการแข่งขันรถยนต์รายการใหญ่ที่มีความหฤโหดของเส้นทางมากที่สุดของโลก และที่สำคัญในปีนี้ได้ที่มีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่านักแข่งจะต้องเผชิญกับอุปสรรคอะไรบ้าง ดังนั้นการจะนำรถเข้าสู่เส้นชัยได้ไม่ว่าจะเป็นลำดับที่เท่าไหร่ก็เป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของแล้วเนื่องจากความหฤโหดของเส้นทางเองก็จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทั้งนักแข่งไทย รวมไปถึงทีมงาน และสมรรถนะของตัวรถได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว” มร.คิชิอิ กล่าวในตอนท้าย
การแข่งขัน ดาการ์ 2009 จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 18 มกราคม 2552 ที่จะถึงนี้ โดยความคืบหน้าในการเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้นั้น มานะ พรศิริเชิด พร้อมด้วยทีมงานจะออกเดินทางสู่ประเทศสเปนในวันที่ 27 ธันวาคม 2551 และเดินทางต่อไปยังประเทศอาเจนติน่า ในวันที่ 28 ธันวาคม 2551 เพื่อเข้าเก็บตัวและวางแผนการแข่งขันร่วมกับทีมนักแข่งต่างๆ ในสังกัด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส และจากนั้นในวันที่ 29 – 31 ธันวาคม มานะและเพื่อนนักแข่งในสังกัด ทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะนำรถแข่งของแต่ละทีมเข้าตรวจเช็คสภาพความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนเริ่มออกสตาร์ทจริงในวันที่ 3 มกราคม 2552 ที่เมือง บัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนตินา
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันและร่วมภาคภูมิใจไปกับมานะ พรศิริเชิด นักแข่งชาวไทย พร้อมให้กำลังใจเพื่อให้นักแข่งไทยเพียงหนึ่งเดียวสามารถคว้าชัยในการแข่งขัน Dakar 2009 ผ่านทางหนังสือพิมพ์ และรายการข่าวกีฬาของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องหรือติดตามความคืบหน้า
ได้จาก www.dakar.com และ www.mitsubishi-motors.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น