AUTO THAILAND's Fan Box

AUTO THAILAND on Facebook

Facebook Fanpage QR Code

qrcode

เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!

๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓

ภาพงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 31 พร้อมกับคลิป"ซนในมอเตอร์โชว์"

หลังจากที่ผมหายไปหลายวัน เพื่อไปร่วมงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31
วันนี้ผมได้นำภาพงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 มาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ




ส่วนคลิป"ซนในมอเตอร์โชว์"ตอนนี้รอให้คลิปดังกล่าวอัพโหลดครบทุกตอน
รับรองเลยว่าทุกท่านจะได้ชมกันแน่นอนนะครับ

๓๐ มีนาคม ๒๕๕๓

หา!!! Nissan March เปิดตัวเพียง 2 สัปดาห์ ยอดจองถึง 5,000 คัน

หลังจากที่ นิสสัน มาร์ช ใหม่! ได้เปิดตัวต่อสาธารณชน
เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา นิสสัน มาร์ชก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก
เพราะเปิดตัวได้เพียง 2 สัปดาห์ก็สามารถทำยอดจองได้ถึง 5,000 คัน
นอกจากนี้ นิสสัน มาร์ช ยังได้รางวัล Car of the year 2010 
ในสาขา Most Environmentally Friendly Car


บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า 
ยอดจอง นิสสัน มาร์ช มีถึง 5,000 คันภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
นับตั้งแต่วันเปิดจอง ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ นิสสัน มาร์ช
ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี รวมทั้งได้รับความนิยมมากขึ้น
อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน
คุ้มค่าต่อการลงทุน และมีราคาที่สมเหตุสมผล ส่งผลให้มี
ยอดจองทะลุเป้าหมายประจำเดือนและเป้าที่ได้ตั้งไว้อย่างง่ายดาย 

คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส
การตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 
ได้ให้ความเห็นว่า “การเปิดตัวนิสสัน มาร์ช ใหม่ ประสบผลสำเร็จ
เกินความคาดหมาย มาร์ช ใหม่ ได้ช่วยให้นิสสันได้รับ
การกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากเปิดตัว
รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างมาก และโดดเด่นจาก
รถระดับเดียวกันอย่างชัดเจน ทั้งในด้านจำนวนและคุณภาพ”


นิสสัน มีการเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งใน
การวางแผนการตลาด การปรับปรุงการดำเนินงาน
และภาพลักษณ์ใหม่ของโชว์รูม ผู้จำหน่าย รวมไปถึงด้านพนักงานขาย
ที่ได้รับการอบรมมาเป็นพิเศษ ประกอบกับแผนการที่จะดำเนินการ
ส่งมอบรถยนต์นิสสันมาร์ชใหม่ให้แก่ลูกค้า อย่างมีประสิทธิภาพ 
และตรงต่อเวลา แต่ยังคง รักษาระดับ
มาตรฐานคุณภาพของนิสสัน มาร์ชทุกคัน

เมื่อเร็วๆ นี้ นิสสันมาร์ช ใหม่ได้รับรางวัล 
Most Environmentally Friendly Car ประจำปี  2553จาก
กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป  โดย Car of the Year
เป็นรางวัลที่มอบให้กับรถยนต์ที่ได้รับการตัดสินว่าเป็น
สุดยอดจาก ที่สุด ยานยนต์ในตลาดรถยนต์ในประเทศไทย


๒๓ มีนาคม ๒๕๕๓

เชฟโรเลตชูกลยุทธ"ทรานฟอร์เมชั่น"ประเดิมด้วยโคโลราโด ไมเนอร์เชนจ์

ชฟโรเลตเตรียมกลยุทธใหม่"ทรานฟอร์เมชั่น"พร้อมเปลี่ยนโลโก้โบว์ไท
ประเดิมแผนการตลาดใหม่โดยการส่ง เชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่
พร้อมกับแคปติวา รุ่นพิเศษ และข้อเสนอพิเศษภายในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31


แผนงานการปรับแบรนด์ หรือ แบรนด์ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ของ 
 บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ  
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกใน
งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 นี้ เพื่อเป็นการเสริมเพิ่มให้
แบรนด์ เชฟโรเลต มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านการบริการ
และภาพลักษณ์ โดยเริ่มปรับตั้งแต่โลโก้ เชฟโรเลต รูปแบบใหม่
ที่จะมาพร้อมกับการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพการให้บริการลูกค้า
เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 
การผลิตรถยนต์และรถปิกอัพคุณภาพเยี่ยมที่สุด รวมถึงการปรับเปลี่ยน
อุปกรณ์สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสื่อสารอีกด้วย 
โดยการปรับโฉมในครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้เห็นถึง
ความมุ่งมั่นของ จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย ในการตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้าให้ดีเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ  
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสท์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัดและ  
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“แบรนด์ ทรานส์ฟอร์เมชั่น” มีเป้าหมายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่
แบรนด์ เชฟโรเลต ด้วยแนวคิด “การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง” 
เพื่อยกระดับการให้บริการ และการบริหารจัดการในทุกส่วนงาน
เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด รวมถึงภาพลักษณ์ขององค์กร
ที่มีต่อสาธารณชน เพื่อเสริมความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าที่มีต่อ
แบรนด์ เชฟโรเลต และเพื่อรองรับแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่
กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้  

“เรายังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมายที่
รอการเปิดตัวสู่สาธารณชน แต่ทว่าลำพังเพียงผลิตภัณฑ์รถยนต์ 
และรถปิกอัพที่ยอดเยี่ยมนั่น คงยังไม่เพียงพอต่อความสำเร็จในระยะยาว 
เราจึงต้องเสริมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ เชฟโรเลต 
เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในทุกๆ ด้าน ภายใต้แผนงาน
แบรนด์ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ซึ่งมีความสำคัญ
เป็นอย่างยิ่งสำหรับเรา” มร.มาร์ติน กล่าว

  ขณะเดียวกันภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ จีเอ็ม และ
เชฟโรเลต ประเทศไทย ยังเผยโฉม โคโลราโด ปิกอัพอเมริกันพันธุ์แกร่ง
ไมเนอร์เชนจ์ และแคปติวา รุ่นพิเศษตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบด้าน 
พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษอีกมากมาย โดยเฉพาะแคมเปญ 
รับซื้อรถเก่าโดยให้ราคาที่สูงกว่าราคาตลาด รับประกันมาตรฐาน
คุณภาพรถโดย เชฟวี่ โอเค ผ่อนชำระต่ำต่อเดือน และโปรโมชั่นอื่นๆอีกมามาย
สำหรับผู้ที่สนใจและสั่งจองรถเชฟโรเลตทุกรุ่นภายใน
งานมอเตอร์โชว์ ณ บูธ A6 อาคารไบเทค บางนา หรือ
ที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ 
ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2553 นี้เท่านั้น

๒๒ มีนาคม ๒๕๕๓

Naow27 Auto Talk Show #14 : Nissan March Eco Car บุกไทยแล้ว

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมกลับมา Live พร้อมกับมีข่าว
จะแจ้งให้ทราบครับโดยวันนี้ผมมีข่าวจะมาแจ้งให้ทราบว่า
"วันนี้เป็นการ Live ครั้งสุดท้ายครับ"เนื่องด้วยปัญหาต่างๆรวมไปถึง
การปรับเปลี่ยนในการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับวงการยานยนต์"  
ท่านใดที่ติดตามแล้วอาจจะตกใจนิดนึง แต่การ Live แบบนี้อาจจะมีอยู่นะครับ 
แต่วันและเวลานั้นจะแจ้งให้ทราบอีกทีนึงนะครับ อีกสาเหตุนึงคือ
เนื่องด้วยบางเวลาที่ผม Live นั้นไปชนกับ @ThaiShortNews Live
ผู้คนให้ความสนใจในด้านนี้มากกว่า ดังนั้นในสัปดาห์ 
จึงของด Live ทั้งศุกร์และเสาร์เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบก่อนที่
จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคมซึ่งวันนั้นผมจะอยู่ที่กทม.
เพื่อร่วมงาน #BIM2010TH ซึ่งจะมีการไลฟ์ทั้งภาพและวีดีโอแบบสดๆ   
ฉะนั้นวันนี้ต้อง ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ ตอนนี้เข้าสู่เนื้อหาการ Live บ้าง
วันนี้ผมจะมา Live เรื่อง Nissan March Eco Car บุกไทยแล้ว

เมื่อวานนี้มี เหตุการณ์อยู่ 2 เหตุการณ์คือ
เหตุการณ์กีฬาสี กลางเมืองกรุงเทพที่ทำเอาหลายๆคนวิตกว่า
อาจจะเกิดความรุนแรง แต่อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ถือว่าเป็น
วันดีของนิสสัน(ดันเลือกวันได้เหมาะมาก)คือวันฉลอง
การผลิตรถยนต์อีโค่คาร์คันแรกในไทย ซึ่งมีคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี
รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน
พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพนักงาน บ. นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จก.
สำหรับกำหนดการเปิดตัว นิสสัน มาร์ช 
นั้นจะเปิดตัวต่อสาธราณชนในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ซึ่งจะเปิดตัวในงาน #BIM2010TH

สำหรับราคาของนิสสัน มาร์ชนั้นได้เคาะไว้ที่ 3.75 แสนบาทซึ่ง
เป็นที่ถูกที่สุด(แต่ออฟชั่นถูกตัดไปเยอะ)
รุ่นที่สูงที่สุด ของนิสสันมาร์ชนั้นเคาะไว้ที่ 5.73 แสนบาทซึ่งเป็น
ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT แต่การส่งมอบนั้นอาจจะช้ากว่าเกียร์ธรรมดา 
สำหรับเครื่องยนต์ นั้นมีขนาด 1,200 ซีซี 3 สูบ 12 วาลว์ 79 แรงม้า 
ส่วนรายละเอียดต่างๆนั้นลองไปติดตามได้ที่ http://ow.ly/1jft7 
เพราะลิงค์ที่ลงไป นั้น ผมได้เขียนข่าวชนิดละเอียดสุดๆ
เพื่อให้ได้รายละเอียดของตัวรถรุ่นนี้ครับ 
 วันนี้ขอการ Live ครั้งสุดท้ายแต่เพียงเท่านี้

๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓

Naow27 Auto Talk Show #13 : เกาะติดงานมอเตอร์ โชว์ 2010 ตอนจบ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้อาจจะงงเล็กน้อย
เพราะมีปัญหาทางทวีตเตอร์อยู่เล็กน้อยรวมทั้งคนเล่นยังมึนๆอยู่ 
หลังจากสัปดาห์ที่ ผมได้ Live เกี่ยวกับงานมอเตอร์โชว์ซึ่ง
สัปดาห์ที่แล้วนั้นเป็นเรื่องของประวัติของงาน มอเตอร์โชว์ 
 มาวันนี้เราจะมาเผยรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่
จะเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งใครที่อยากมีรถสักคันก็
เตรียมถอนเงินจากธนาคารได้เลย
 (แต่พริตตี้ผมพูด ไม่ได้ เพราะเปลี่ยนใหม่ทุกปี) 
ในงาน #BIM2010TH นั้นค่ายรถยนต์แต่ละค่ายก็เตรียมรถใหม่
เพื่อเรียกความสนใจจากผู้บริโภคยิ่งปีนี้พิเศษ เพราะมีอีโค่คาร์
มาบุกตลาดในประเทศไทย จนทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันความสนใจไปที่"อีโค่คาร์" 
 ค่ายรถยนต์แต่ละ ค่ายก็พยายามหาวิธีสกัดดาวรุ่งอย่างอีโค่คาร์
เพื่อให้ผู้บริโภคหันมาสนใจในค่ายรถยนต์ของตนบ้างในปีนี้
สงครามรถเล็กถือว่ารุนแรงที่สุด เพราะมีอีโค่คาร์มาบุกตลาดในประเทศไทย
ค่ายรถยนต์จึงเตรียมข้อเสนอต่างๆเพื่อล่อความสนใจของลูกค้า
วันนี้เราจะมาแนะนำ รถใหม่ในแต่ละค่ายว่าจะมีทีเด็ดอะไร
ที่น่าสนใจก่อนที่งานนี้จะเริ่มขึ้นกัน ครับ

เรามาเริ่มกันที่ นิสสัน ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดตัว
Nissan March อีโค่ คาร์คันแรกของเมืองไทย
และนับว่าประเทศไทย ได้ขับ Nissan March เป็นประเทศแรกของโลก 
แต่การส่งมอบนั้นใครที่จองเกียร์ในรุ่นเกียร์ธรรมดานั้น  
จะส่งมอบรถในช่วงประมาณสัปดาห์หน้า ส่วนเกียร์อัตโนมัตินั้น
คงต้องรอถึงเดือนมิถุนายน เพราะมีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับด้านการผลิต
ไฮไลท์เด็ดของนิสสันปีนี้ Nissan March Eco car คันแรกในเมืองไทย  


ต่อมาก็เป็นค่ายมาส ด้า ที่ปีนี้เตรียมรถเก๋งขนาดเล็กอย่าง
"มาสด้า 2 ซีดาน"ที่งานนี้มาสานต่อความสำเร็จจากรุ่น 5 ประตู
ที่สามารถโค่นแชมป์ อย่าง Honda Jazz และเป็นการเข้าสู้กับ
แชมป์เก๋งเล็ก อย่าง"โตโยต้า วีออส"ที่เพิ่ง
แต่งหน้าทาปากไป เมื่อวันจันทร์ โดยกำหนดการเปิดตัวของ
มาสด้า 2 ซีดานนั้นจะเปิดตัวในวันที่ 16 มีนาคมนี้

ต่อมาก้เป็นค่าย อันดับ 1 อย่าง โตโยต้าที่เพิ่ง
แต่งหน้าทาปากให้กับ Toyota Vios ไปเมื่อวันจันทร์
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวรุ่นพิเศษภายในงานคือ
Toyota Hilux Vigo Prerunner 2.5 E Exculsive 
และ Toyota Fortuner Aperto IIซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 หลังจากที่ปีที่ 
แล้ว Aperto รุ่นแรก ประสบความสำเร็จอย่างมาก 
งานนี้จึงกลับมาอีกครั้งกับลูกเล่นที่เยอะกว่าเดิม 
แต่จะมีอะไรบ้างต้องติดตามกันครับ 

ข้ามฝั่งมาที่ค่าย ลุงแซมบ้างกับค่ายฟอร์ดที่เตรียมเปิดตัว 
ฟอร์ด เฟียสต้า ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวได้ผลิตที่โรงงาน AAT 
ซึ่งเป็นโรงงานผลิต Mazda 2 เอาง่ายๆครับ มาสด้ากับฟอร์ด
ได้ใช้โรงงานผลิตรถในที่เดียวกัน ฉะนั้นฟอร์ด เฟียสต้า
จึงเป็นรถที่น่าจับตามองอยู่ แต่กระแสเงียบกริบ! 

 เพราะฟอร์ดในประเทศไทยไม่มีแผนการตลาดที่
จะทำให้ผู้บริโภคนั้นสนใจผลิตภัณฑ์ตนเอง
แถมยังคิดว่า"จะสามารถทำยอดขายได้เยอะ" 
กรณีนี้ควรคิด ให้ ดีๆนะครับเพราะหากคิดสูงเกินไป
โอกาสแป็กสูงนะ ครับ ฉะนั้นพิจารณาให้ดีๆนะครับ
ทีมงานฟอร์ดในประเทศไทย

ต่อมาเรามาดูแดนกิม จิบ้าง(หลายๆคนคงชอบ)กับค่ายฮุนได
ที่งานนี้ได้นำ Sexy Suv อย่างฮุนได ทูซอน ที่เปิดตัวไปเมื่อวานนี้
กับราคา 1.7 - 1.8 ล้านบาท แล้วเตรียมทีเด็ดอื่นๆ 
ที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์ได้ ต้องติดตามกันครับ

เอาล่ะจริงๆมีเยอะ กว่านี้ แต่ก็คงไม่ไหวหรอกครับ
เพราะทีเด็และอะไรต่างๆนั้นจะไปโผล่ในงานมอเตอร์โชว์ 2010 
ที่จะเปิดฉากในวันที่ 26 มีนาคมนี้

ขอจบการ Live แต่เพียงเท่านี้ อ่านย้อนหลังได้ที่
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยในมา ณ ที่นี่  
 

รายงานยอดขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2010



บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 
รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2553
มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 54,175 คัน เพิ่มขึ้น 57.7% 
ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,404 คัน เพิ่มขึ้น
57.3%  รถเพื่อการพาณิชย์   31,771 คัน เพิ่มขึ้น 58.0%   
รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ใน เซกเมนท์นี้
จำนวน 27,476 คัน เพิ่มขึ้น 57.7%    

การวิเคราะห์จากทาง โตโยต้า ให้เหตุผลว่า
1.) ตลาดรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณการขาย 54,175 คัน 
เพิ่มขึ้น 57.7%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีที่ผ่านมา
เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก เป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 89 เดือน
 โดยรถยนต์นั่งเติบโต 57.3%
 รถเพื่อการพาณิชย์เติบโต 58.0%
และรถกระบะขนาด 1 ตันในเซ็กเมนท์นี้ เติบโต 57.7%
เป็นผลมาจากเศรษฐกิจ ในประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
ราคาพืชผลการเกษตรที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าอุปทาน
ในประเทศส่วนหนึ่งจะได้รับผลกระทบจากการปรับแผนการผลิต 
เพื่อรองรับตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
2.) ตลาดรถยนต์สะสม 2 เดือน มีปริมาณการขาย 103,735 คัน 
เพิ่มขึ้น 56.1%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 55.3% 
ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 56.7% 
เป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา สะท้อนถึง
ภาวะ เศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น ภาวะการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 
ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ที่เริ่มส่งผลหลังจากที่ได้ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงราคาพืชผลสินค้าเกษตรที่สำคัญหลายรายการ อาทิ
ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา ยังคงมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน มีนาคม คาดว่ายังคงเติบโต 
แม้ว่าการชุมนุมทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อ
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และเป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์ 
อย่างไรก็ตามการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นปรับปรุงโฉม รุ่นพิเศษ
ข้อเสนอพิเศษและเงื่อนไขการเช่าซื้อที่หลากหลายจากค่ายรถยนต์ต่างๆ
ตลอด จนการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือน 
จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์



Hyundai Tucson : Sexy Suv เยือนเืมืองไทย ต้อนรับมอเตอร์โชว์

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2010  ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)
ได้รุกตลาดรถยนต์ SUV ด้วยการเปิดตัว  HYUNDAI TUCSON
เจ้าของฉายา The Sexy SUV งานนี้ได้เคาะราคาไว้ที่ 1.7-1.8 ล้านบาท


มร.โยชิ ซึมิ คุราตะ ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
กล่าวถึง รายละเอียดของการเปิดตัว The New HYUNDAI TUCSON ครั้งนี้ว่า
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้จาก
ประเทศเกาหลีเพียงไม่กี่เดือน หลังการเปิดตัวแบบ World Premier
เพื่อเอาใจแฟนๆรถยนต์ฮุนได โดยรถรุ่นนี้เป็นโมเดลรถยนต์ที่ใหม่ที่สุด
รุ่นหนึ่ง ของฮุนไดในปัจจุบันนี้ และเพียบพร้อมไปด้วยบุคคลิก ความสวยงาม 
เทคโนโลยี และอุปกรณ์ ที่โดดเด่นทันสมัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่
สนใจของ ลูกค้ากลุ่ม A+ ที่มองหารถยนต์ที่ให้บุคคลิก และสะท้อน
ความเป็น ตัวตนในความคุ้มค่าที่สัมผัสได้ แน่นอนว่าหลังพวงมาลัยของ 
The New Hyundai Tucson คุณคือผู้ที่มีบุคคลิกพิเศษที่มั่นใจในตัวเอง
รู้ว่าตนต้องการอะไรและมีรสนิยมที่ไม่เป็นรองใคร พร้อมทั้งกล้าที่จะไม่จำเจ”



สำหรับ Hyundai Tucson นั้นเป็นรถที่พัฒนามาจากรถต้นแบบ IX-ONIC
 การออกแบบของตัวรถนั้นได้รับ ความร่วมมือของศูนย์ออกแบบ
รถยนต์ฮุนไดในประเทศเกาหลี แคลิฟอร์เนีย และแฟรงค์เฟิร์ต 
ยกระดับมาตรฐานการออกแบบ และสมรรถนะของรถยนต์ฮุนไดทั่วโลก
เพื่อเอาใจลูกค้าระดับบนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงที่ต้องการยานยนต์
สะท้อนเอกลักษณ์ความโดดเด่นเฉพาะตัว จากการออกแบบ
ภายนอกที่เพรียวลมแบบ Fluidic Design การออกแบบที่เฉียบคม 
เน้นเส้นสายที่ชัดเจนเพื่อสะท้อนถึงความลื่นไหลไม่หยุดนิ่ง 
และกระจังหน้า 6 เหลี่ยม เอกลักษณ์ใหม่ในการออกแบบของฮุนได 
และอุปกรณ์ต่างๆที่บรรจุเอาไว้ มากมายคุ้มราคา



ภายในห้องโดยสารของ Hyundai Tucson นั้นได้มีการตกแต่งสไตล์ยุโรป 
เบาะหนังแท้รอบคัน สี Conac Brown ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
แบบแยกส่วน Dual Zone พร้อม ระบบฟอกอากาศ Cluster Ionizer
เครื่องเสียงคุณภาพสูง พร้อมลำโพง 6+1 ตัว รองรับการเชื่อมต่อทาง
USB และ iPodพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง
และ Cruise Controlเบาะหลังพับแยกได้ 60:40 
และปรับราบได้เพื่อบรรทุกสัมภาระอย่างสะดวก
  

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน 
 ระบบ Smart Key เปิดปิดประตูได้โดยไม่ต้องถือกุญแจ 
ปุ่มสตาร์ท (Start Button)กล้องส่องหลังช่วยจอดมีภาพปรากฏบนจอ LCD
  ที่กระจกมองหลัง เพื่อความปลอดภัย Trip Computer ช่วยคำนวน เชื้อเพลิง 
และระยะทาง รวมทั้งข้อมูลการเดินทางอื่นๆ



เครื่องยนต์
 Hyundai Tucson ได้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว1,998 ซีซี หัวฉีด อีเล็กโทรนิคส์
พร้อมระบบแปรผันวาล์ว ทั้งไอดี และไอเสีย (D-CVVT) และ 
ระบบปรับระยะทางเดินไอดี (VIS)
พละกำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที 
แรงบิดสูงสุด 197 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที 
ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลือน 4 ล้อ แบบ on-demand
ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็คโทรนิกส์
กระจายแรงขับ 50:50 ระหว่างล้อหน้า และล้อหลัง
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดบวกลบ  



     ระบบเสริมความปลอดภัยเพียบทั้ง ระบบรักษาเสถียรภาพ
Electronic Stability Program (ESP) ระบบ Downhill Brake Control (DBC)
ระบบป้องกันรถไหล Hill-start Assist Control (HAC) ระบบเบรค ABS 
ระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย ให้ความปลอดภัยสูงสุด 
โช๊คอัพแบบ Amplitude Selective Damper (ASD) 
ให้ทั้งความนุ่มนวล และการทรงตัวที่ดี


สำหรับ ฮุนได ทูซอน นั้นได้เคาะราคาไว้ตามดังล่างนี้
 2.0 2WD 1,791,000 บาท
 2.0 4WD 1,895,500 บาท

 ท่านใดสนใจสามารถไปชมได้ที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ
หรืองานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 ที่ไบเทค บางนา ในวันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย.2010

๑๗ มีนาคม ๒๕๕๓

Mazda 2 Sedan :สานต่อความสำเร็จ เสริมทัพให้แกร่งขึ้น

เมื่อปีที่แล้ว มาสด้าก็ได้สร้างปรากฎการณ์ความแปลกใหม่ให้กับ
ตลาด B-segment ด้วยการเปิดตัว มาสด้า 2 เวอร์ชั่น 5 ประตู
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2009 โดยมี เป้ อารักษ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก
ในมาสด้า ประเทศไทย จนกระแสรถยนต์มาสด้า 2 นั้นฟีเวอร์อย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ยังไม่เปิดก็มียอดจองถึง 1,100 คัน นับว่าแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว

จนในที่สุด มาสด้า 2 ก็สามารถแซงยอดขาย Honda Jazz ได้สำเร็จ
แล้ววันนี้(16 มี.ค.)มาสด้าก็ได้เสริมทัพให้กับมาสด้า 2 ให้แข็งแกร่งขึ้น
ด้วยการเปิดตัว มาสด้า 2 เวอร์ชั่น 4 ประตู โดยไม่สนสถานการณ์
การเมืองที่ร้อนระอุ


จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า 
จากความสำเร็จอย่างถ้วมท้นในการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ต
มาสด้า2 รุ่นแฮ็ชแบค 5 ประตู เมื่อเดือนกลางพฤศจิกายน 2552
ที่ผ่านมา ส่งผลให้มาสด้ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ด้วยยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 
สร้างความประหลาดใจให้กับมาสด้า ประเทศไทย
ผู้จำหน่ายมาสด้า บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น รวมทั้งมาสด้าจากทั่วโลก 
ตลอดจนคู่แข่งของมาสด้าที่กำลังจับตามองเรา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ที่เราจะยังคงทำงานกับผู้จำหน่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้โครงการและ
การดำเนินการต่างๆของเราสมบูรณ์แบบ เพื่อที่จะรับประกันถึง

ความสำเร็จของเราในปีนี้ นอกเหนือจากความสำเร็จด้านยอดขายแล้ว
อีกสิ่งที่มาสด้าเน้นความสำคัญมาโดยตลอดนั่นคือการขยาย
เครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อให้ครบ 130 แห่ง
ภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ MCI เพื่อรองรับการบริการที่เพิ่มสูงขึ้น 
รวมทั้งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทั้ง
ด้านการขายอะไหล่และบริการรวมทั้งการยกระดับแบรนด์
มาสด้าให้ขึ้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของ
อุตสาหกรรมรถยนต์เมืองไทย

จอห์น เรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดรถยนต์มาสด้าในปี 2553 นี้ 
มาสด้าตั้งเป้ายอดขายปีนี้สูงถึง 35,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 164 %
โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ซีดานและรุ่นแฮ็ชแบค 5 ประตู 
จะยังคงเป็นโปรดักซ์ลีดเดอร์สำหรับการทำตลาดในปีนี้ โดยทั้ง 2 รุ่น
ตั้ง เป้าหมายยอดขายไว้อยู่ที่ประมาณ 24,000 คัน 

และที่สำคัญรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 จะยังคงรักษาความร้อนแรงต่อไป
ประมาณ 5,000 คัน ส่วนรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่
คาดว่าจะอยู่ ที่ประมาณ 6,000 คัน และรถพรีเมี่ยมคาร์คือ

New Mazda CX-9 และ New  MX-5 อีก ประมาณ 78 คัน 
ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ ขณะนี้มีลูกค้าแบล็คออเดอร์อยู่เกือบ 2,000 คัน 




รูปทรงภายนอกสำหรับมาสด้า 2 ซีดานนั้นได้ยกหน้าในรุ่นแฮตช์แบ็กเข้ามาใส่
 โดยการออกแบบของมาสด้า 2 ซีดาน ใหม่ ค่อนข้างที่จะยาก 
ดังนั้นจึงมีการออกแบบให้เส้นสายเข้ากับรถมาสด้า 2 ซีดาน ใหม่ 
จึงดูดีขึ้น ส่วนใครที่พูดว่า"มาสด้า 2 ซีดาน ตูดโ่ด่ง"ถอนคำพูดนี้ได้เลย
เพราะมาสด้าได้ดำเนินแก้ไขให้ชาวไทยได้ใช้รถรุ่นนี้ได้อย่างสบายใจ(มั้ง)


ขณะที่ห้องโดยสารของมาสด้า 2 ซีดานนั้นคอนโซลหน้าก็ได้ยกมาจาก
รุ่นแฮตช์แบ็ก ส่วนโทนสีในห้องโดยสารนั้นเป็นสีครีมเพื่อเพิ่มความโปร่งสบาย
ไม่อึดอัด มีการออกแบบให้เบาะนั่งด้านหลังกว้างขวาง สะดวกสบายเหนือกว่า
รถซีดานทั่วๆ ไป และสามารถเลือกปรับพับเบาะได้ ในอัตราส่วน 60:40
เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสิ่งของขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับในรุ่น 5 ประตู 
การเข้าออก ใช้ระบบกุญแจอัจฉริยะ 
(Smart Keyless Entry and Start System) ที่ให้ความสะดวกสบายใน
การเปิด-ปิด และสตาร์ทรถโดยไม่ใช้กุญแจ วิทยุ CD-MP3 6 แผ่น พร้อม
ช่องเชื่อมอุปกรณ์เสริม AUX สำหรับเชื่อมต่อเครื่องเล่นเพลง

แบบพกพาต่างๆ เข้ากับระบบเครื่องเสียงของรถ





ด้านเครื่องยนต์นั้นเป็นบล็อกเดียวกับรุ่นแฮตช์แบ็กคือ
ครื่องยนต์ MZR ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOCH) 4 สูบ 16 วาล์ว 
ขนาด 1500 ซีซี ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์
พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ S-VT 
และระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV
ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า (76 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที 



ตอบสนองการขับขี่ทุกจังหวะความเร็วและแม่นยำ  
พวงมาลัยพาวเวอร์แบบ ไฟฟ้า EPAS
 (Electric Power Assistance Steering)แม่นยำคุมได้ได้ตามสั่ง 
รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.9 เมตร ช่วงล่างถูกออกแบบให้ยึด
เกาะถนนได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวลระบบความปลอดภัยรอบคันด้วย 
โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ TRIPLE H ที่ให้ความแข็งแกร่งทนทานสูง 
โครงรถผลิตจากเหล็กกล้าชนิดพิเศษ Ultra High
Tensile Steel) ที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง เหนียวทนทานกว่าเหล็กทั่วไป 

คุณสมบัติรับและส่งถ่ายแรงกระแทกให้กระจายไปทั่วคัน
เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารภายใน เสริมด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
พร้อมระบบเบรก ABS ทั้ง 4 ล้อ และ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก 
ทำให้ระยะเบรกสั้นลง ทั้ง 2 อย่างนี้ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น


 มาสด้า 2 ซีดาน ใหม่นั้ได้เคาะราคาไว้ดังด้านล่างนี้


รุ่น Maxx  AT   675,000 บาท
 รุ่น Spirit  AT   615,000 บาท
รุ่น Groove  AT   564,000 บาท
รุ่น Groove MT   535,000 บาท

คุณสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด 
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
สำหรับมาสด้า2 ซีดาน ใหม่ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้คือ 

จะแตกต่างจากรุ่นแฮ็ชแบค 5 ประตู คือ จะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หรือโตขึ้นกว่าเดิม
แต่ยังเป็นคนหนุ่ม-สาว ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่น
มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และไม่ชอบตามใคร  เป็นกลุ่มนิสิต-นักศึกษา 

และผู้ที่มีชีวิตหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นผู้บริหารไฟแรง  หรือผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ 
มีกิจการส่วนตัว ส่วนการสื่อสารภาพลักษณ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
อย่างรวดเร็วชัดเจน ซึ่งเรายังคงใช้ "เป้" อารักษ์ อมรศุภศิริ

ซึ่งเป็นศิลปินนักแสดงหนุ่มที่กำลังฮ็อตฮิตที่สุดในยุคนี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ 
ซึ่งเป้จะมีอีกหนึ่งบุคลิกภาพที่จะสะท้อนตัวตนของมาสด้า2 ซีดาน ใหม่
ได้ อย่างชัดเจน และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว 

โดยถ่ายทอดผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที 
นอกจากนี้มาสด้ายังโหมโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร สื่อป้าย
และสื่อออนไลน์ โดยเน้นสร้างกระแสจากกรุงเทพฯ เป็นหลัก 
และตามหัวเมืองหลักๆ ในต่างจังหวัด และเตรียมลงพื้นที่
จัดกิจกรรมการ ตลาดเพื่อเปิดตัวรถอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ





 ท่านใดที่อยากเห็นมาสด้า 2 ซีดานตัวจริง 
สามารถสัมผัสและ Test Drive ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
และงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 ที่ไบเทค บางนา ในวันที่ 26 มี.ค.- 6เม.ย.2010
ใครสนใจไปชมได้ตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้เป็นต้นไป

๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓

Nissan March : Eco Car คันแรกในไทยมาแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 3.75 แสนบาท

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับอีโค่คาร์คันแรกในไทย
อย่าง Nissan March ที่เปิดตัวในรอบสื่อมวลชนเมื่อ
ช่วงเวลาเที่ยงของวันนี้(12 มีนาคม 2010)
ที่โรงงานนิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) ถนน บางนา-ตราด กม. 21
โดยมีคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี ผู้แทนจากหน่วยราชการ 
สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติกว่า 200 คน รวมทั้งพนักงานบริษัทนิสสัน
ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียงกัน  
วันนี้ Autothailand ก็เตรียมนำรายละเอียด
ชนิดเต็มอิ่มมาให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันครับ

(คำเตือน:ใครที่มีอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วต่ำ ต้องทำใจเพราะบทความนี้ภาพเยอะมาก) 


สำหรับนิสสัน มาร์ช ใหม่นั้นเป็นรถที่อยู่ภายใต้โครงการอีโค่ คาร์
ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาล โดยมีสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ(BOI) 
เป็นผู้ควบคุมมาตรฐานของรถอีโค่ คาร์ โดยมี 4 ข้อซึ่งเป็นกฎทองคือ

1.มีอัตราการใช้น้ำเชื้อเพลิงไม่เกิน 5.0 ลิตร หรือ 100 กม.

2.มาตรฐานมลพิษต้องอยู่ในระดับยูโร 4 (EURO4) และมีปริมาณ

การปล่อยก็าซ CO2 ที่ปล่อยได้ไม่เกิน 120 กรัม
ต่อระยะทาง 1 กม.


3.สามารถปกป้องผู้โดยสารกรณีเกิดการชนจากด้านหน้าและ ด้านข้าง

ตามมาตรฐานความปลอดภัยของ Unece* 94 และ 95 
(*Unece คือคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจสหภาพยูโรป

4.ต้องมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 ซีซี

สำหรับเบนซิน และ 1,400 ซีซี สำหรับดีเซล
 การที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco car) 
ต้องเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและปล่อยก๊าซCO2ในปริมาณน้อย 
นอกจากนี้ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลของผู้โดยสาร
ทั้งกันกระแทกด้านหน้าและด้านข้างตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของ สหภาพยุโรป (UNECE Regulation 94 และ 95)
โดยโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลเป็น
โครงการของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม
ซึ่งเคยประสบผลสำเร็จจากการสร้างให้ประเทศไทย
เป็นฐานการผลิตรถยนต์กระบะมาแล้ว


“จากการที่ปริมาณรถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น 
และการให้ความสำคัญในเรื่องมลพิษที่มีระดับสูงขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ 
บริษัท ฯ จึงได้เปิดตัวรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซ CO2 ในระดับต่ำ
และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง”

มร.โตชิยูกิ ชิกะ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บ. นิสสัน มอเตอร์ จก.
กล่าว นอกจากนี้ มร. ชิกะ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“สิ่งที่สำคัญอีกประการจากการผลิตและจำหน่ายรถยนต์นิสสัน มาร์ช 
ซึ่งเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งการส่งออกรถยนต์รุ่นดังกล่าว
ไปยังประเทศอื่นๆในทวีปเอเชียและโอเชียเนีย จะช่วยสร้างงานและก่อให้เกิด
การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างก้าวหน้าในประเทศ นั้นๆ”



กำหนดเปิดตัวอย่างเป็น ทางการต่อสาธารณชนในวันที่ 26 มีนาคม 
ในงาน Bangkok International Motor Show 2010 รถยนต์นิสสัน มาร์ช 
จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่จำหน่ายตามโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน
มาตรฐานสากล ของประเทศไทยซึ่งริเริ่มขึ้นเพื่อส่งเสริม
การพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ


 ภายนอก

นิสสัน มาร์ช ใหม่นี้มีขนาดยาวขึ้นและความสูงลดลงเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่ฐานล้อซึ่งยาวขึ้นนั้น ทำให้นิสสัน มาร์ชมีพื้นที่ภายในกว้างขวางขึ้น
นอกจากนี้ ร่องรูปทรงบูมเมอแรงบนหลังคารถช่วยลดการสั่นสะเทือน
ลดเสียงภายในห้องโดยสาร ยามาเนกล่าว ด้วยเจตนาในการออกแบบที่
จะสร้างความรู้สึกเดียวกันทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก
ภายในห้องโดยสาร นิสสันจึงได้ใช้แนวคิด ‘Connected Cocoon’
การออกแบบแผงหน้าปัดที่ยึดตามแนวคิดของ ‘ทวิน บับเบิ้ล’
ที่หมายถึงที่ตั้งเข็มอุปกรณ์รูปกลมและตู้เก็บของ
รูปร่างคล้ายกันทางด้านผู้โดยสาร

สำหรับภายนอกของนิสสัน มาร์ช ใหม่ นั้น
ได้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน V-Platform ซึ่งเป็นพื้นฐานใหม่ของนิสสัน
โดยตัวถังนั้น
ยาว 3,780 มม. กว้าง 1,665 มม. สูง 1,515 มม.
ฐานล้อยาว 2,450 มม. ระยะห่างขอล้อคู่หน้า 1,475 มม.
ส่วนล้อหลังนั้น 1,470 มม.

สำหรับ นิสสัน มาร์ช นั้นจัดอยู่ในกลุ่ม อีโค่ คาร์ สำหรับในเมืองไทย
แต่ถ้าในต่างประเทศได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม B-segment หรือรถยนต์ขนาดเล็ก
ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ Toyota Yaris(Vitz) ,Honda Jazz(Fit),Mazda 2 (Demio)
และนับว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ขับนิสสัน มาร์ช ก่อนใครในโลก

ภายใน


สำหรับภายในห้องโดยสารนั้นมีการออกแบบให้กว้างขวางสบาย
คนตัวสูงก็สามารถนั่งได้ โดยภายในห้องโดยสารนั้น
มีการตกแต่งด้วยสีเงิน แต่โทนสีภายในห้องโดยสารนั้นเป็นโทนสีดำดังในภาพ


สำหรับมาตรวัดของนิสสัน มาร์ชนั้นเป็นแบบอนาลอก 
พร้อมจอ MD (Multi-Display)ที่มี
-Trip Computer แสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงขณะขับขี่
-Welcome & Anniversary ฟังชั่นเตือนวันพิเศษเช่นวันเกิด,วันปีใหม่ 
-Alert / Warning  หน้าจอแสดงเตือนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่


-Maintenance หน้าจอแสดงเตือนระยะเวลาการตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่
-Idling Stop หน้าจอแสดงปริมาณน้ำมันที่ระบบประหยัดได้
-ITS หน้าจอแสดงผลแจ้งเตือนระยะทางวิ่งได้จากน้ำมันที่มีเหลืออยู่



ชุดเครื่องเสียงของนิสสัน มาร์ชนั้นเป็นแบบ วิทยุ CD MP3 แบบ 1 แผ่น
พร้อมช่อง AUX IN สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องเล่น MP3 , iPod และอื่นๆ


ส่วนระบบปรับอากาศนั้นใน รุ่น 1.2 VL และ 1.2 V เป็นแบบอัตโนมัติ
ส่วนรุ่น 1.2 EL , 1.2 E และ 1.2 S เป็นแบบธรรมดามือหมุน


แน่นอนว่าเทคโนโลยีแบบอัจฉริยะที่มี อย่าง Tiida และ Teana
ถ้าไม่ใส่ ใน March ก็คงจะไม่โดนใจผู้บริโภคและไม่มีสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นนิสสันจึงใส่ระบบปุมสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start ที่มาพร้อมกับ
ระบบกุญแจอัจฉริยะ Intellgence Key ที่เปิดประตูได้โดยไม่ต้องไขกุญแจ






เครื่องยนต์


สำหรับเครื่องยนต์ที่นิสสัน มาร์ช ใช้นั้นมีรหัส HR12DE 
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ในตระกูล HR เป็นบล็อกเดียวกับ Nissan Tiida
รายละเอียดเครื่องยนต์มีดังนี้ เครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี
รหัส HR12DE 3 สูบ 12 วาลว์ พร้อมระบบวาลว์แปรผัน CVTC 
 ความจุกระบอกสูบ 1,198 ซีซี
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์
 ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า (58 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร(10.8 กก.-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/ นาที

พร้อมระบบ Idling Stop ระบบเครื่องยนต์ดับโดยอัตโนมัีตืเมื่อรถหยุดนิ่ง
แล้วกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อเหยียบคันเร่ง


จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT เทคโนโลยีเดียวกับ 
Teana และ X-trail ซึ่งเป็นรายแรกของโลก
ที่ใช้ชุดเกียร์แบบ CVT ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด


โครงสร้างที่นิสสัน มาร์ชใช้นั้นเป็นโครงสร้างแบบ V-Platform
ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา แต่ความแข็งแกร่ง ทนทาน ยังคงมีเหมือนเดิม

ระบบช่วงล่าง
ระบบช่วงล่างของนิสสัน มาร์ช ใหม่นั้น
ด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แม็คฟอร์สันสตรัท
ส่วนด้านหลังเป็นแบบ ทอร์ขั่นบีม
รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.5 เมตร

ความปลอดภัย

สำหรับความปลอดภัยแบบป้องกันนั้น
มีระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรกด้วย BA 


ส่วนแบบปกป้องนั้น
โครงสร้างตัวรถนิสสัน มาร์ช นั้นเป็นแบบ Zone Body Concept


ถุงลมนิรภัยแบบ SRS คู่หน้าสำหรับรุ่น 1.2 VL และ 1.2 V 
 ส่วนรุ่น 1.2 EL , 1.2 E และ 1.2 S มีแค่ด้านคนขับ


สำหรับ นิสสัน มาร์ช ใหม่นั้นมีให้เลือกถึง 6 สีคือ
    -สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์   
        -สีดำ แบล็ก สตาร์ 
      -สีม่วง คริสตัล ไลแลค 
       -สีเขียวสปริง กรีน  
      -สีส้ม ซันไลท์ ออเร้นท์      
   -สีขาว ไวท์ เพิร์ล   


ส่วนราคาของ Nissan March มีดังต่อไปนี้
-1.2S MT ราคา 375,000 บาท
-1.2E MT ราคา 425,000 บาท
 -1.2E CVT ราคา 459,000 บาท
-1.2V CVT ราคา 507,000 บาท
  -1.2EL CVT ราคา 489,000 บาท
-1.2EL CVT ราคา 537,000 บาท 

ใครสนใจสามารถไปชม นิสสัน มาร์ช ใหม่ ตัวจริงได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมนี้เป็นต้นไปหรือสามารถไปชมได้ที่
งาน Bangkok International Motor Show 2010 
วันที่ 26 มี.ค.- 6 เม.ย.2010 ที่ไบเทค บางนา



TVC Nissan March ชีวิตง่ายขึ้น