AUTO THAILAND's Fan Box

AUTO THAILAND on Facebook

Facebook Fanpage QR Code

qrcode

เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!

๒๘ มีนาคม ๒๕๕๒

เตรียมพบกับภาพบรรยากาศงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นเนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่30

เตรียมพบกับภาพบรรยากาศงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นเนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่30

ทั้งภาพและวีดีโอ เร็วๆนี้

๒๔ มีนาคม ๒๕๕๒

มาสด้า ซาโซ รถต้นแบบมาสด้า2 ถึงไทยแล้ว

มาสด้า ซาโซ รถต้นแบบมาสด้า2 ถึงไทยแล้ว

มาสด้า ซาโซ คอนเซ็ปต์คาร์ของรถยนต์นั่งมาสด้า2 ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัย

มาสด้าเตรียมเปิดให้ชมตัวจริง เสียงจริง

ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมศกนี้เป็นต้นไป

อีซูซุดีแมคซ์ พิชิตดาการ์ แรลลี่ 2009 คว้าแชมป์ปิกอัพดีเซล


อีซูซุดีแมคซ์ พิชิตดาการ์ แรลลี่ 2009 คว้าแชมป์ปิกอัพดีเซล

รถปิกอัพสัญชาติไทย “อีซูซุดีแมคซ์” ของทีมการ์แลนด์ มอเตอร์สปอร์ต ขับโดย “มร. บรูซ การ์แลนด์”
และผู้นำทาง “มร. แฮรี่ ซูซูกิ” นักแข่งจากนครซิดนีย์ คว้าชัยอันดับที่ 1 รุ่นรถปิกอัพดีเซล T 1.2 (Amateur)
และเป็นอันดับที่ 11 จากรถยนต์ที่เข้าแข่งขันทั้งหมด นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่พิสูจน์สมรรถนะของรถปิกอัพสัญชาติไทยในการแข่งขันแรลลี่สุดหฤโหดระดับโลกรถปิกอัพสัญชาติไทย “อีซูซุดีแมคซ์” ซึ่งขับโดย
“มร. บรูซ การ์แลนด์” (Mr. Bruce Garland) และผู้นำทาง “มร. แฮรี่ ซูซูกิ” (Mr. Harry Suzuki)
สองนักแข่งจากประเทศออสเตรเลีย ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท อีซูซุโอเปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มตรีเพชร

อีซูซุ สามารถเข้าสู่เส้นชัยด้วยตำแหน่งอันดับ 1 ประเภท T1.2 (Amateur)
รุ่นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล และเป็นอันดับที่ 11 จากจำนวนรถยนต์ที่ออก
สตาร์ททั้งสิ้น 177 คัน นอกจากนี้รถ “อีซูซุดีแมคซ์” คันนี้ เป็น 1 ในรถเพียง 18 คันที่
สามารถขับฝ่าอุปสรรคทั้งหลายมาได้ครบทั้งหมด 14 สเตจ จากรถยนต์ที่
เข้าแข่งขันทั้งหมดถึง 177 คัน หรือเท่ากับ 1 ใน 10 ของรถที่เข้าแข่งขันทั้งหมด
นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ “อีซูซุดีแมคซ์” รถปิกอัพสัญชาติไทย

ได้พิสูจน์สมรรถนะ และความแข็งแกร่งทนทาน ด้วยการคว้าแชมป์รถปิกอัพดีเซล
ในการแข่งขันแรลลี่สุดหฤโหดระดับโลก “ดาการ์ แรลลี่ 2009”
ร่วมสัมผัสรถ “อีซูซุดีแมคซ์” คันแกร่งแชมป์ปิกอัพดีเซลจาก “ดาการ์แรลลี่ 2009”
ได้ที่บูธอีซูซุตลอดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2009
และร่วมพูดคุยกับสองนักแข่ง “มร. บรูซ การ์แลนด์” และ “มร. แฮรี่ ซูซูกิ”
ได้ในวันที่ 4 เมษายนนี้ที่บูธอีซูซุ

๒๓ มีนาคม ๒๕๕๒

เชฟโรเลต ส่งแคปติวา รุ่น LTZ พร้อมขนทีเด็ดโชว์ในงานมอเตอร์โชว์


เชฟโรเลตลุยไม่หวั่นเรื่องเศรษฐกิจผันผวน ส่งแคปติวา รุ่น LTZ พร้อมแคมเปญพิเศษกระตุ้นยอดขายใน
งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ชูโปรโมชั่น “เก่ามา ใหม่ไป” เปิดรับแลกรถใช้แล้วทุกรุ่นทุกยี่ห้อ พร้อมให้ราคาเพิ่มถึง 20,000 บาท เพื่อซื้อออพตร้า CNG หรือเอสเตท CNG อีกทั้งเปิดตัวแคปติวา LTZ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ติดตั้งกับชุดแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมจัดแคมเปญเฉพาะงาน “ช่วยกันดาวน์”
ถอยรถโคโลราโดและอาวีโอ แบบสบายกระเป๋า ดาวน์เริ่มต้น 10% โดยเชฟโรเลตช่วยดาวน์ครึ่งหนึ่ง
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโปรโมชั่นสุดพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 จัดระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย.นี้ โดย มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย กล่าวว่า เชฟโรเลตเตรียมขนทัพรถมาจัดแสดงอย่างเต็มที่ครบทุกรุ่น ทั้งแคปติวา เชฟโรเลต ออพตร้า ซีดาน
และเอสเตท CNG เชฟโรเลต โคโลราโด และเชฟโรเลต อาวีโอ พร้อมกันนี้
ยังเตรียมเปิดตัวเชฟโรเลต แคปติวา LTZ ที่เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน
ไม่ว่าจะเป็น
- บนคอนโซลมีหน้าจอขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทาง Navigator System
-เบาะหนังเจาะรูสีเบจสุดหรู
-ล้ออัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยางสปอร์ตจากดันล้อป
-แผงกระจังหน้าโครเมียมดูสวยงามแฝงความดุดัน
ส่วนแคมเปญเชฟโรเลตในงานนี้ เริ่มที่ “เก่ามาใหม่ไป” เปิดรับรถใช้แล้วทุกรุ่นทุกยี่ห้อในราคาสูงกว่าราคากลาง หรือ Red Book สูงสุดถึง 20,000 บาท เพื่อซื้อ ออพตร้า ซีดาน หรือเอสเตท CNG พ่วงเงื่อนไขสบายกระเป๋า ดาวน์เริ่มต้น 15% ผ่อนดอกเบี้ย 0% 36 เดือน หรือดาวน์ 25% ผ่อนดอกเบี้ย 0% 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีขณะที่ อาวีโอ มีโปรโมชั่นพิเศษสุด “ช่วยกันดาวน์” ดาวน์เริ่มต้นเพียง 15% ลูกค้าดาวน์เพียง 10% เชฟโรเลตช่วยดาวน์ 5% พร้อมฟรีชุดแต่งสปอร์ตมูลค่ากว่า 30,000 บาท ประกอบด้วย ชุดตกแต่งสเกิร์ตกันชนหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง เพิ่มความโฉบเฉี่ยวเติมเต็มความสปอร์ต นอกจากนี้ โปรโมชั่นช่วยกันดาวน์ยังครอบคลุมสำหรับเชฟโรเลต โคโลราโดด้วย โดยดาวน์เริ่มต้นเพียง 20% ลูกค้าดาวน์เพียง 10% เชฟโรเลตช่วยดาวน์อีก 10% รถอเนกประสงค์สุดหรู เชฟโรเลต แคปติวา มอบข้อเสนอพิเศษ ด้วยชุดตกแต่งพิเศษ แคปติวา “Expression” 6 รายการ ทั้งชุดกระจังหน้าโครเมียม ฝาครอบไฟตัดหมอกโครเมียม บันไดข้าง ไฟท้ายใส ล้ออัลลอย 18 นิ้ว 5 ก้าน พร้อมยาง ปิดท้ายด้วยโลโก้ Expression มูลค่า 87,973 บาท ในราคาเพียง 69,900 บาท

ตลาดรถเดือน ก.พ. ลดลง 30.7% แชมป์กระบะอีซูซุ ครองที่1 แต่ ยอดรวม โตโยต้าที่1 เช่นเคย

ตลาดรถเดือน ก.พ. ลดลง 30.7% แชมป์กระบะอีซูซุ ครองที่1 แต่ยอดรวม โตโยต้าที่1 เช่นเคย
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2552 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 34,361 คัน ลดลง 30.7%
ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 14,248 คัน ลดลง 16.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 20,113 คัน ลดลง 38.1% รวมทั้ง
รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 17,424 คัน ลดลง 37.3% ด้านตลาดรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์
มีปริมาณการขาย 34,361 คัน ลดลง30.7% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ และการชะลอการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ประกอบกับยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ของปีทีผ่านมามียอดขายที่สูงเนื่องจากการตอบรับรถยนต์ที่ใช้พลังงาน อี20ส่วนตลาดรถยนต์
รวม 2 เดือน มีปริมาณการขาย 66,446 คัน ลดลง 30.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 38.8% ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 13.5%
เนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องของวิกฤตเศรษฐกิจ ตลอดจนการเพิ่มระดับความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ตลาดรถยนต์ในเดือน มีนาคม ในภาวะปกติจะเป็นฤดูการขาย คาดว่าตลาดรถยนต์มี
แนวโน้มดีขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการความชัดเจนในเรื่องนโยบายการลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์
รวมถึงการจัดงานมอเตอร์โชว์ ที่จะเปิดฤดูการขาย ช่วงไตรมาสแรกของปี ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ
รวมถึงรถยนต์รุ่นพิเศษอีกหลายรุ่นในช่วงดังกล่าว และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด จากค่ายรถต่างๆ
จะมีส่วนสำคัญต่อการกระตุ้นส่งท้ายไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ อาทิราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์ได้ปริมาณการ
จำหน่ายรถยนต์ เดือนกุมภาพันธ์ 2552
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 34,361 คัน ลดลง 30.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,227 คัน ลดลง 31.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.4% อันดับที่
2 อีซูซุ 7,674 คัน ลดลง 29.9% ส่วนแบ่งตลาด 22.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,812 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 16.9%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 14,248 คัน ลดลง 16.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,884 คัน ลดลง 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 48.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,527 คัน ลดลง 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
อันดับที่ 3 มาสด้า 310 คัน เพิ่มขึ้น 53.5% ส่วนแบ่งตลาด 2.2%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 17,424 คัน ลดลง 37.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 7,183 คัน ลดลง 29.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,589 คัน ลดลง 39.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,258 คัน ลดลง 29.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%*
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 1,763 คัน
-โตโยต้า 1,051 คัน
- อีซูซุ 378 คัน
- มิตซูบิชิ 300 คัน
- ฟอร์ด 34 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 15,661 คัน ลดลง 39.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 6,805 คัน ลดลง 29.5% ส่วนแบ่งตลาด 43.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,538 คัน ลดลง 42.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,258 คัน ลดลง 29.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 20,113 คัน ลดลง 38.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 7,674 คัน ลดลง 29.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,343 คัน ลดลง 38.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,290 คัน ลดลง 30.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%
ยังไงก็ตามเดือนนี้ถือว่ามีรถใหม่เข้ามาเปิดตัวกันเป็นพอสมควร และตลาดรถยนต์เดือนนี้จะคึกคัก
เพราะเดือนมีนาคมจะมีงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่30 ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้(26มี.ค.52)

๒๑ มีนาคม ๒๕๕๒

ภาพเพิ่มเติม นิสสัน เทียน่า ใหม่















ภาพมีเยอะมากไปดูเพิ่มเติมได้ที่http://www.nissanpress.in.th

ทาทา เตรียมเปิดตัว ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ลแค็บ ในงานมอเตอร์โชว์2009

ทาทา เตรียมเปิดตัว ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ลแค็บ ในงานมอเตอร์โชว์2009

ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัวรถปิคอัพดีเซลรุ่นใหม่ ซีนอน ซิงเกิลแค็บ กระบะไจแอนท์ ซึ่งเป็นรถกระบะตอนเดียวยกสูงคันแรกในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ ปิคอัพฉีกกฎ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ด้วยพื้นกระบะหลังแบนราบไม่มีซุ้มล้อ ฝากระบะเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้า และเป็นรถกระบะเพื่อสร้างรายได้แห่งยุคนี้อย่างแท้จริง

ทาทา ซีนอน ซิงเกิลแค็บ กระบะไจแอนท์ เป็นรถปิคอัพตอนเดียวที่มีพื้นกระบะแบนราบแบบ flat load body ไม่มีซุ้มล้อ ขึ้นมารบกวนพื้นที่การบรรทุกสินค้าในกระบะท้าย ทำให้ใช้ประโยชน์จากเนื้อที่ในกระบะได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งกระบะที่เปิดออกได้ทั้ง 3 ด้าน ยังทำให้การขนถ่ายสินค้าทำได้สะดวกและเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้มากยิ่งขึ้นรถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมัน VTT Dicor 2.2 ลิตร ที่ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 140 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่รอบเครื่อง 1,700 -2,700 รอบต่อนาที และจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2552
สำหรับงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน โดยแนวคิดของการจัดงานในปีนี้คือ ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ
(Green Life on Wheels) ซึ่งทาทา มอเตอร์ส ได้นำเสนอแนวคิดดังกล่าว ด้วยบูธที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างยานยนต์
กับธรรมชาติ และนำเสนอเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ ทาทาได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ในการส่งเสริมให้ผู้ใช้รถหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือซีเอ็นจี (compressed natural gas)มากขึ้น
ซึ่งนอกจากจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ในการลดการนำเข้าเชื้อเพลิงแล้ว
ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย

พบกับTATA XENON SINGLE CAB กระบะไจแอนท์ได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009
26 มีนาคม-6 เมษายน 2552 ที่บู๊ท A13 Hall 105 ไบเทค บางนา

๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒

All New TEANA Built for Excellence





All New TEANA Built for Excellence
บริษัท นิสสันมอเตอร์ไทยแลนด์ จำกัด(เดิมบริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิลล์ จำกัด) ได้เปิดตัวนิสสัน เทียนา ใหม่ในประเทศไทยเมื่อวันที่19มีนาคม2552 โดยคอนเซ็ปที่สุดแห่งยนตรกรรมสมบูรณ์แบบ(Built for Excellence) นิสสันเทียน่ารุ่นใหม่ล่าสุดนี้สะท้อนถึงมิติใหม่ของยนตรกรรมในรถยนต์นั่งขนาดกลาง ด้วยสุดยอดสมรรถนะ ความทันสมัย และ ความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่กว้างขวางและการขับขี่ที่เงียบสนิท เสมือนหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ (Modern Living) ที่ให้ผู้ขับรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นิสสัน เทียน่าถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาลง แต่มีช่วงล่างที่แข็งแกร่งให้การเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ข้อแตกต่างบางประการ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบช่วงล่างด้านหน้า, ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi link ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งช่วงล่าง รวมถึง ตำแหน่งของโชคอัพ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการทรงตัวขณะขับขี่และลดแรงสั่นสะเทือนนิสสัน เทียน่ารุ่นใหม่ Teana 250XV-V6 ติดตั้งซันรูฟ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทันสมัย สวยงาม ทำให้รู้สึกถึงความโปร่งโล่งสบายภายในห้องโดยสาร ทำจากแก้ว พร้อมฟิลม์กรองแสง เพื่อ ตัดรังสี UV ประกอบด้วยกลไกการเปิดปิดอัตโนมัติและนำเสนออุปกรณ์เสริม Navigation
พร้อมระบบ Software ล่าสุดในรุ่น 250XV-V6 Sunroof Navigation
มิติตัวถัง
ความยาว 4,850 มม.
กว้าง 1,795 มม.
สูง 1,485 มม.
ฐานล้อ 2,775 มม.
น้ำหนัก 1,437-1,531 กก.
นับตั้งแต่นิสสันแนะนำ เทียน่า รถยนต์นั่งขนาดกลางในตลาดรถยนต์ไทยทดแทน เซฟิโร่ อีกหนึ่งรุ่นของนิสสันที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในปี 2547 ตั้งแต่นั้น เทียน่า ก็สร้างนิยามใหม่ของรถยนต์ขนาด D-Segment ทั้งในด้านของรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย เทคโนโลยี ความสะดวกสบายและความปลอดภัยอย่างไรก็ตามแม้ เทียน่า จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่นิสสันก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยแต่อย่างใด ทีมวิศวกรนำโดย มาซารุ อริมิทสุ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ Chief Product Specialist และ คินิชิ ไซโตะ หัวหน้าฝ่ายออกแบบ หรือ Product Chief Designer ก็เริ่มต้นงานของพวกเขา นั่นคือพัฒนา รถยนต์ เทียน่า ใหม่ ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาคือ Modern Living Concept หรือห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุมอาริมิทสุ กล่าวว่า "เราอยากมอบคุณค่าที่ไม่มีวันลืมเลือน ของเทียน่าให้กับลูกค้า" ส่วนไซโตะ บอกว่า "เทียน่า เป็นรถซีดาน ที่จะเชิญชวนให้ลูกค้า ใช้ชีวิตประจำวันในทุกรูปแบบที่ต้องการได้อย่างสบายๆ"
EXTERIOR......ภายนอก
ภายนอกนิสสัน เทียน่า ใหม่ ออกแบบโดยยึดแนวคิด Art Form เพราะนิสสันเชื่อมั่นว่าการออกแบบรถที่ดี
ก็เหมือนกับการสร้างศิลปะที่สวยงามลงตัว โดยมีท้องถนน เป็น แกลลอรี จัดแสดง Art Form ของ
นิสสัน เทียน่า ใหม่ นอกจากจะเน้นมุมมองที่สวยงาม มีชีวิตชีวา และดึงดูดสายตาของผู้คนแล้ว
นิสสันก็ไม่ละเลยในเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น การออกแบบมุมกันชนหน้าที่มีองศาหักหลบบริเวณขอบฝากระโปรงหน้า ลบเหลี่ยมลงไป ทำให้มุมมองด้านหน้านั้นลื่นไหลเชื่อมต่อกับโครงสร้างด้านข้างอย่างลงตัว ซึ่งการออกแบบวิธีนี้ นอกจากจะทำให้รถมีมุมมองที่ สวยงามและให้อารมณ์สปอร์ตแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการหักเลี้ยวรถในที่แคบๆได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่า รถจะได้รับความเสียหายเนื่องจากไปขูดขีดกับสิ่งกีดขวางอีกด้วยพร้อมยังสอดรับกับรูปทรงใหม่ของกันชนหน้า นิสสัน เทียน่า ใหม่ ออกแบบกระจังหน้าแบบแนวนอนให้มีมุมมองสามมิติ ด้วยการติดตั้งโลโก้อยู่ด้านนอก เหมือนกับประติมากรรมนูนต่ำ ช่วยขับภาพความแข็งแกร่ง สปอร์ต และหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วย ในส่วนของไฟหน้า ออกแบบใหม่ หรูหรา โฉบเฉี่ยว และมีความล้ำสมัยเช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมี่ยม SUV MURANO, สปอร์ต coupe 370Z, และ ซูเปอร์คาร์ อย่าง GT-R การออกแบบได้แรงบันดาลใจจากสุดยอดอัญมณีเพชร สัญลักษณ์แห่งความปรารถนา พร้อมเลนสีฟ้า ขณะที่กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วยังเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานเนื่องจากช่วยให้รถคันอื่นสังเกตเห็นได้ง่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าแบบ Multi-Reflector เพิ่มความปลอดภัยในสภาพการขับขี่ที่ทัศวิสัยไม่ดี ตัวถังออกแบบให้มีสันด้านข้างรูปโค้งตลอดคัน เหมือนกับเป็นมัดกล้ามเนื้อ ทำให้ดูทรงพลังและดุดันในตัว มือเปิดประตูชุบโครเมียมช่วยเพิ่มความหรูหรา สอดรับอย่างกลมกลืนลงตัวกับคิ้วโครเมียมบริเวณฝาท้าย และคิ้วกันกระแทกที่ชุบโครเมียมรอบคัน ซึ่งได้รูปแบบแนวคิดมาจากดาบอาวุธประจำกายของนักรบซามูไร
กระจกหน้าต่างรอบด้านเป็นแบบที่เรียกว่า 6 Light Window ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและผ่อนคลายด้านท้ายนอกจากจะออกแบบไฟท้ายใหม่ที่ช่วยขับบุคลิกสปอร์ต และหรูหราให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นจากไฟที่มีลักษณะเป็น 3 มิติ
พร้อมกับหลอดไฟ LED ที่ออกแบบเป็นพิเศษ Iconic graphic เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างที่ให้มากกว่า
ความสมบูรณ์แบบนอกจากนี้ยังสัมผัสถึงสุนทรียภาพในการขับขี่ยิ่งกว่า
ด้วยซันรูฟ UV Cut ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น พร้อมแผ่นบังแดด
ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส ในรุ่น 250XV-V6 (Sunroof and Curtain Airbags) ไม่เพียงเท่านั้น เทียน่า ใหม่ ยังให้ความสนใจกับทุกรายละเอียด เพื่อให้เป็นรถที่ดูดีที่สุดไม่ว่ากำลังโลดแล่นอยู่บนท้องถนน หรือว่าจอดนิ่งอยู่ในลานจอดรถก็ตาม ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของล้อ โดยออกแบบให้มีลายเส้นที่มีความโค้ง โดยแต่ละลายเส้นมีลักษณะนูนต่ำ
และมีความสูงไม่เท่ากัน ดังนั้นเมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำ จะทำให้มองเห็นเป็นประกายแสงเงาสะท้อน สวยงาม
INTERIOR……ภายใน
ภายในได้การออกแบบด้วยแนวคิดห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ หรือว่า Modern Living Concept เมื่อเข้าไปนั่งอยู่ภายใน
ห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ทันสมัย และประณีตในทุกขั้นตอนการผลิตห้องโดยสารที่กว้างขวาง
และยาวกว่ารุ่นเดิม 25 มม.พื้นที่เหนือศีรษะเบาะหน้าเพิ่มขึ้น 36 มม. พื้นที่เหนือศีรษะเบาะนั่งแถวหลังเพิ่มขึ้น
ขณะที่ห้องเก็บของมีความจุมากถึง 506 ลิตร สิ่งที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ช่วยให้วิศวกรมีอิสระในการออกแบบภายในเพื่อ
เพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน และรูปทรงต่างๆ ได้มากขึ้น และความกว้างขวางนี้จะเป็นจุดขายหลักอย่างหนึ่งของ เทียน่า ใหม่ ในการแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางแนวคิดหลักของห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ คือจะต้องมีความหรูหรา ทันสมัย และนั่งสบาย โดยเบาะนั่งนั้น นอกจากจะออกแบบให้กว้างขวาง โอบกระชับ และเสริมเทคโนโลยีในการกระจายแรงกดทับจากการนั่ง ช่วยทำให้เพลิดเพลินตลอดทางแล้ว ในเรื่องของสีสัน หรือการเย็บแบบด้ายคู่ ก็ออกแบบให้สอดคล้องกับชิ้นส่วนอื่นๆ และที่สำคัญก็คือ ให้ผู้นั่งรับรู้ได้ถึงอารมณ์ผ่อนคลายสูงสุดคอนโซลหน้าชิ้นบนออกแบบให้โค้งและ "ลอย" เด่นขึ้นเหนือคอนโซลหน้าชิ้นล่าง และบุด้วยวัสดแบบนุ่มพิเศษ (Soft Pads) ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอบอุ่น ผ่อนคลายยามขับขี่ตัดขอบด้วยลายไม้ และวัสดุสีเงินเพิ่มความหรูหรา มีระดับมาตรวัดต่างๆ เป็นแบบ Multi-Information Display พร้อมมาตรวัดเรืองแสง Fine Vision ตัดขอบอะลูมิเนียม หรูหรา สปอร์ต และอ่านข้อมูลได้ชัดเจน ทำให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากเส้นทางนานเกินไป เช่นเดียวกับแผงหน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศและเครื่องเสียง ที่ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวก เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นทั้งนี้การแสดงข้อมูลของมาตรวัดต่างๆ ที่สำคัญเช่น ระบบเตือนให้เหยียบเบรกก่อนสตาร์ท อัตราการสิ้นเปลืองขณะขับขี่ อัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ย ความเร็วเฉลี่ย ระยะเวลาที่ขับ ระยะทางที่ขับขี่ ระยะทางที่สามารถขับต่อไปได้ อุณหภูมิภายนอก ข้อมูลการบำรุงรักษา ไฟเตือนชั่วโมงในการขับขี่ พวงมาลัยหุ้มหนังและลายไม้ ออกแบบใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้นอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในมุมมองกับชิ้นส่วนอื่นๆ มาพร้อมกับระบบมัลติฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นปุ่มควบคุมระบบความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง (เฉพาะรุ่น 2.5L)แผงคอนโซลเกียร์รูปทรงคลื่นโค้งมนตามหลักแนวคิด Wave Form ตกแต่งด้วยแผงลายไม้และวัสดุสีเงินที่ให้ความหรูหรายิ่งกว่า บ่งบอกรสนิยมผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ออกแบบให้กลมกลืนกับที่เท้าแขนและกล่องเก็บของให้เหมือนกับเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน ไม่ใช่การยกกล่องสี่เหลี่ยมเอามาตั้งไว้ตรงกลางรถเท่านั้น การออกแบบด้วยวิธีนี้ทำให้ดูไม่แข็งกระด้าง และไม่น่าเบื่ออีกด้วย เทียน่า ใหม่ ยังออกแบบให้มีกล่องเก็บอุปกรณ์ต่างๆหลายจุด และเพิ่มขนาดความจุ เช่น Glove Box จาก 5.8 ลิตร เป็น 8.6 ลิตร กล่องคอนโซลกลาง จาก 2.5 ลิตร เป็น 3 ลิตร ซึ่งเพียงพอกับการจัดเก็บซีดีได้ 13 แผ่น ระบบเครื่องเสียงเป็นแบบ 2 DIN เล่นซีดีได้ 6 แผ่น MP3 พร้อมช่อง AUX ลำโพง 6 ตัว ในการขับขี่ช่วงกลางคืน แสงไฟสีนวลบริเวณคอนโซลกลาง และที่เปิดประตู ช่วยให้มองเห็นอุปกรณ์ต่างๆ
โดยไม่รบกวนสายตาแต่อย่างใด และการออกแบบบานประตู ให้สามารถเปิดออกได้กว้างขึ้น
ก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกได้ว่าการเข้าออกห้องนั่งเล่นนี้ทำได้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
เงียบทุกการเดินทาง
นิสสัน เทียน่า ใหม่ ออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์รวมถึงการติดตั้งฉนวนกันเสียงตามขอบประตู เพื่อลดช่องว่างที่จะทำให้เสียงเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสาร หลังคา รวมทั้งการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีเสียงนุ่มนวล และการออกแบบมุมกระจกหน้าให้ลดแรงประทะกับลม ทำให้ภายในห้องโดยสารนั้นเงียบจนเกินความคาดหมายเลยทีเดียว สะดวกทุกการใช้งานเทียน่า ใหม่ ออกแบบระบบกุญแจอัจฉริยะ เพียงพกติดตัวไว้ก็สามารถเปิดปิดประตู ฝากระโปรงหลัง สตาร์ทเครื่อง ดับเครื่องด้วยการกดปุ่ม โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกมาแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยจากการโจรกรรม เพราะต้องใช้กุญแจอัจฉริยะนี้ในการสั่งการระบบทำงานต่างๆของรถยนต์เท่านั้น สำหรับรุ่นที่มีการติดตั้งระบบนำทางเนวิเกเตอร์ จะมาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Multi-function พร้อมนำทางคุณสู่จุดหมายปลายทาง ด้วยระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ประมวลผลผ่าน GPS อย่างแม่นยำ แสดงแผนที่ที่ชัดเจนผ่านจอ LCD แบบสี ให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางและไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยกล้องส่องมองหลังที่เพิ่มความปลอดภัยในการถอยเข้าจอด นอกจากนี้ยังแสดงอุณหภูมิแยกช้ายขวา และสถานะการทำงานของ
ระบบเครื่องเสียงได้อีกด้วย ช่วยให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
PERFORMANCE……สมรรถนะ
การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและสุดยอดสมรรถนะในการเร่งความเร็วจากการทดสอบจริง ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด รวมทั้งยังได้มีการพัฒนาเรื่องการประหยัดน้ำมัน และความเงียบอีกด้วย นิสสัน เทียน่า ใหม่ มี 2 เครื่องยนต์รุ่นใหม่ให้เลือก โดยพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น ขณะที่การสิ้นเปลืองน้ำมัน และการปล่อยมลพิษลดลง ประกอบไปด้วย
เครื่องยนต์ VQ25D ขนาด 2.5 ลิตร V6 6สูบ 24วาล์ว 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 228 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที มีสมรรถนะสูง ทั้งกำลังแรงม้าและแรงบิด ช่วยตอบสนองการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และพร้อมปรับปรุงระบบท่อไอดีแบบใหม่ ช่วยให้อากาศไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังใช้ระบบหัวฉีดแบบใหม่ สามารถฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 12 รู ช่วยให้การฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นละอองฝอย
เครื่องยนต์เผาไหม้หมดจดส่งผลในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม
เครื่องยนต์ MR20DE ขนาด 2.0 ลิตร 4สูบ 16วาล์ว 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที มีประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยการใช้เทคนิคชั้นสูงในการประกอบชุดกระบอกสูบ (Bore Centralize) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับการประกอบเครื่องยนต์ของรถแข่ง และยังออกแบบระบบการไหลเวียนของอากาศทั้งไอดีและไอเสียให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยการออกแบบชิ้นงานของอ่างน้ำมันเครื่องกับเพลาถ่วงสมดุลให้เป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยลดน้ำหนักเพื่อให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าใครกับระบบเกียร์ XTRONIC CVT ระบบเกียร์ XTRONIC CVT ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้ความนุ่มนวลทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์ สามารถตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและทางหลวงได้อย่างลงตัว ด้วยแรงบิดสูงแต่รอบต่ำ นอกจากนี้การใช้พูเลย์ทำงานแค่ 2 ตัว ทำให้ลดน้ำหนักได้มาก เมื่อเทียบกับเกียร์ทั่วๆไปที่ใช้เฟืองเกียร์ 5-6 ตัว CVT แบบใหม่นี้ได้รับการพัฒนาโดยปรับปรุงกำลังขับและลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นเมื่อเทียบกับ CVT รุ่นเดิม ระบบอิเล็กทรอนิกส์
Adaptive Shift Control: ASC จะปรับการทำงานของเกียร์โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการขับ, ความเร็วของรถยนต์,
สภาพถนนและน้ำหนักตัวรถ พร้อมความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานได้ถึง 700 รูปแบบ จากนั้นจึงสั่งเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ รวมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยทำให้
ผู้ขับขี่ไม่รู้สึกเครียด ขณะรถวิ่งและยังลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีเป็นเลิศด้วย
SAFETY……ความปลอดภัย
โครงสร้างใหม่ตัวถัง D PlatForm ใหม่ นิสสัน เทียน่า ใหม่ ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการออกแบบภายนอก
ภายในที่หรูหรา ทันสมัย และสะดวกสบายเท่านั้น ในเชิงวิศวกรรมก็จำเป็นจะต้องพัฒนาให้สอดคล้อง
ไปในทิศทางเดียวกัน และที่สำคัญก็คือ จะต้องสร้างสมดุลของการรวมกัน ระหว่างสมรรถนะการขับขี่ และความสบายกับความปลอดภัยให้ลงตัว ตามหลักแนวคิดแบบ 3D แม้จะเป็นงานที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งคำตอบอยู่ในรถยนต์คันนี้เรียบร้อยแล้ว โดย 3D Concept ประกอบด้วย
D1: สมรรถนะในการขับขี่
โครงสร้างตัวถังใหม่ ลดอาการโยนตัว ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ดังใจ ทำงานควบคู่กับระบบช่วงล่าง New Multi-link แบบ Premium Class เพื่อให้สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของตัวถังได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมโครงสร้างตัวถังใหม่ ทำให้สามารถปรับมุม Caster ของล้อหน้า ส่งผลให้หน้ายางสัมผัสถนนมากขึ้น
และใช้ระบบพวงมาลัยแบบ Twin Orifice Vehicle Speed Sensing Power Steering (TOPS)
ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกการขับขี่
D2: ความสบายและผ่อนคลายขณะขับขี่
จัดวางตำแหน่งของระบบช่วงล่างใหม่ โดยปรับปรุงโครงสร้างของ New Multi-link ให้ดีขึ้น ใช้โช๊คอัพแบบ Rebound Spring ทั้ง 4 ล้อ และเลื่อนตำแหน่งโช๊คอัพหลังมาวางใกล้ล้อมากขึ้น ส่งผลให้ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังปิดกั้นช่องว่างของตัวรถได้อย่างสมบูรณ์ และตัดเสียงรบกวนจากภายนอกห้องโดยสารให้ลดลงโดยติดตั้งอุปกรณ์ซับเสียงไม่ให้เล็ดลอดเข้ามา นอกจากนี้เสียงที่แทรกเข้ามาภายในห้องโดยสารจะถูกลดให้เบาลงด้วยอุปกรณ์ซับเสียงที่ติดตั้งไว้อย่างเหมาะสม ทำให้สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในการขับขี่
D3: ความปลอดภัย
ใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ (Ultra High Strength Steel) มากขึ้น เพิ่มโครงสร้าง X-type Cowl Top
เสริมความแข็งแกร่งของห้องโดยสาร และ New Joint Member ระหว่างพื้นและห้องเครื่องยนต์
เพิ่มความแข็งแกร่งและลดอาการสั่นโยนของตัวถัง
นอกจากไฟหน้า ไฟเลี้ยว และไฟท้ายที่ออกแบบใหม่เพื่อให้เห็นเด่นชัดขึ้นแล้ว เทียน่า ใหม่
ได้ติดตั้งถุงลมป้องกันการกระแทกคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
แล้วสำหรับรุ่น 250XV-V6 ได้ติดตั้งถุงลมด้านข้างเพิ่มอีก 2 จุด และเพื่อความปลอดภัยที่พิเศษยิ่งขึ้น
สำหรับรุ่น 250XV-V6 (Sunroof and Curtain Airbags) ติดตั้งถุงลมถึง 6 จุด โดยเพิ่มม่านถุงลมด้านข้างเข้า
ไปเบาะนั่งพร้อมพนักพิง Active Head Restraints ในคู่หน้า ที่จะยกตัวสูงขึ้นเพื่อลดการบาดเจ็บบริเวณคอ
เมื่อเกิดการชน และแผ่นกันกระแทกบริเวณเท้า เทียน่า ใหม่ นอกจากนี้ยังมีระบบเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง
เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้สามารถขับรถเข้าที่จอดได้อย่างปลอดภัยขณะที่
ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ก็ติดตั้งไว้อย่างครบครัน
ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง
(Vehicle Dynamic Control: VDC) ระบบควบคุมการลื่นไถลของล้อขณะขับบนพื้นลื่น (TCS)
ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกไปทั้ง 4 ล้อ (Brake Limited Slip Differential: BLSD)
ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกให้สมดุลระหว่างล้อคู่หน้าและคู่หลัง (Electronic Brake of Force Distribution: EBD) ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) และระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist: BA)
นิสสัน เทียน่า นำเสนอทางเลือกให้ลูกค้าด้วยสีของรถที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวถึง 6 สี
รวมถึงสีใหม่ คือ Deep Amethyst Gray ซึ่งเป็นสีใหม่ล่าสุดของนิสสันซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัย
เป็นผู้นำ และสมบูรณ์ด้วยบรรยากาศที่สบาย จากรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น และหรูหราอย่างเป็นหนึ่งไม่เหมือนใคร
ราคาจำหน่ายเทียน่าทั้ง 6 รุ่น
1. 200XE ราคา 1,179,000 บาท
2. 200XL ราคา 1,209,000 บาท
3. 250 XV V6 ราคา 1,499,000 บาท
4. 250 XV V6 Sunroof ราคา 1,549,000 บาท
5. 250 XV V6 Navigation ราคา 1,599,000 บาท
6. 250 XV V6 Sunroof Navigation ราคา 1,649,000 บาท
สัมผัสนิสสันเทียน่าใหม่ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศและ
งานBangkok International Motor show 2009 26 มีนาคม -6 เมษายน 2552 ที่ไบเทค บางนา
ภาพยนตร์โฆษณานิสสัน เทียน่า ใหม่

๑๓ มีนาคม ๒๕๕๒

New Toyota Yaris ถึงเวลาที่โตโยต้าปล่อยหมัดเด็ด






New Toyota Yaris ถึงเวลาที่โตโยต้าปล่อยหมัดเด็ด
โตโยต้า ยาริสเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม2549 แล้วมียอดขายในประเทศทั้งสิ้นกว่า 41,000 คัน
(ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552) นอกจากนี้โตโยต้ายาริสยังได้แนะนำ
โตโยต้ายาริสเกรดJเมื่อต้นปี2551และได้เปิดตัว
พรีเซนเตอร์นั้นก็คือ”วงไทเทเนียม” และวันนี้โตโยต้าได้เปิดตัว”โตโยต้ายาริสโฉมใหม่”
ซึ่งเป็นการเปิดตัวเพื่อต้อนรับงานมอเตอร์โชว์2009และอย่างจะเป็นการแข่งกับคู่แข่งอย่าง
”ฮอนด้าแจ็ส”ที่เปิดตัวเมื่อช่วงตันปี2551

“รถยนต์โตโยต้ายาริสรุ่นปรับปรุงโฉมนี้ ได้รับการออกแบบที่มุ่งเน้นในการตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยจุดเด่นมากมาย ทั้งดีไซน์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายในและภายนอก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มีอยู่มากมายหลายจุด”
ภาย....นอกปรับโฉมใหม่ให้สวยขึ้น
-สเกิร์ตหน้า หลังใหม่ ลงตัวทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น S Ltd, S และ E Ltd)
-กระจังหน้าลายใหม่ ดีไซน์เรียว ดูโฉบเฉี่ยว
-โคมไฟหน้าใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน
-ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง เท่ห์แบบลงตัว พร้อมเพิ่มความปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมถนน
-โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่e อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม และเลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส
-ล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้านขนาด 15 นิ้ว
ภายใน....หรูหร่ามากขึ้น
-พวงมาลัย3ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย
-ช่องต่อสาย AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่ -ผ้าเบาะลายใหม่ สุขุม นุ่ม ลึก
-พื้นที่อเนกประสงค์ที่ลงตัวไปกับการใช้ชีวิต สะดวกสบาย
ที่วางแก้วตำแหน่งคนขับ ช่องเก็บของด้านข้างประตู
ถาดใส่ของอเนกประสงค์ ใต้คอนโซลด้านคนขับ
ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง
ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย
กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า
เครื่องยนต์และระบบกันสะเทือน พลังขับเคลื่อนที่สมดุล
จากพลังของเครื่องยนต์ ที่ให้อัตราเร่งโดดเด่น และประหยัดน้ำมัน
-1 NZ-FE VVT-i 1,500 ซีซี DOHC 16 วาล์วกำลังสูงสุด 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์)
ที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด
141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที
-ลื่นไหลทุกจังหวะการขับขี่ ด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Typee
ให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์
-ควบคุมได้ดั่งใจ...ให้ทุกการเดินทางราบรื่น นุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า
แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม
-คล่องตัว ทุกการควบคุม ปราดเปรียวเกินคาด พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

ความปลอดภัย
- รองรับทุกเรื่องที่ไม่คาดฝัน ด้วยถุงลมนิรภัย SRS ที่พร้อมปกป้องคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า
จากการชนด้านหน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J)
-ปลอดภัยยิ่งกว่า ด้วยเข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับ
และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J)
-เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง
ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน
-โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง
-เบรคสั่งได้มั่นใจยิ่งกว่าe สัมผัสพลังการเบรคที่พร้อมมอบความมั่นใจ กับระบบเบรค ABS
ที่ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนัก
ที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้นๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J)
-กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบe ไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้
โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S limited)

-ยาริสใหม่มีให้เลือกอยู่6 สี -Super White II
- Silver Metallic
-Mediume Silver Metallic
-Super Red
- Black Mica
- Light Blue Mica Metallic

ราคาโตโยต้ยาริส ใหม่

รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท
รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท
รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท
รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท
รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท
*Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)
พบกับยาริสใหม่ได้ในงาน My Style My Yaris 14-15 มีนาคมนี้
ที่ “เซ็นทรัลเวิลด์”และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 306 แห่งทั่วประเทศ

๑๒ มีนาคม ๒๕๕๒

มาสด้าเปิดตัวรถใหม่3รุ่นรวด สวนกระแสเศรษฐกิจ ต้อนรับงานมอเตอร์โชว์





มาสด้าเปิดตัวรถใหม่3รุ่นรวด สวนกระแสเศรษฐกิจ ต้อนรับงานมอเตอร์โชว์

มาสด้าลุยช่วงต้นปี2552ด้วยการเปิดตัว New Mazda MX-5 พร้อมกันนี้
ยังเปิดตัวรุ่นพิเศษของมาสด้า3นั้นก็คือรุ่นMove Seriesมีทั้ง
Mazda 3 i-MOVE เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรและ Mazda 3 S-MOVE เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
สวนกระแสเศรษฐกิจที่ตกต่ำพร้อมต้อนรับงานมอเตอร์โชว์2009

มาสด้าเผยปีนี้เป็นปีทอง นอกจากจะเปิดตัว New Mazda MX-5แล้ว ในช่วงครึ่งปีหลัง
มาสด้ายังเตรียมเปิดรถสปอร์ตครอสโอเวอร์นั้นก็คือ Mazda CX-9 และที่เป็นไฮไลต์มากที่สุด
คงจะเป็นใครที่ไหนไม่ได้นอกจาก Mazda 2 ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี
แล้วหลังจากนั้นพันธมิตรอย่างฟอร์ดก็จะเปิดรถขณะเล็กในปี 2553
สำหรับ New Mazda MX-5 RHT นับเป็น เจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ได้มีการปรับรูปโฉมให้สปอร์ตดูดุดันยิ่งขึ้น
ภายในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสะดวกสบาย เครื่องยนต์อันทรงพลังยิ่งขึ้นกว่าเดิม
มาพร้อมหลังคาไฟฟ้า Retractable Hard Topที่เปิด-ปิดเร็วที่สุดในโลกแค่ 12 วินาที เพียงปลายนิ้วสัมผัส
เครื่องยนต์ 2000 ซีซี. 4 สูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า
พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยระบบควบคุมจังหวะเปิด-ปิดของวาล์วแบบผันแปร
(Variable intake-valve timing) และ VIS
(Variable Intake System) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 6 สปีด แบบ Activematic
สามารถเปลี่ยนเป็นระบบเกียร์ธรรมดาได้ทันทีเพียงปรับก้านที่พวงมาลัย
ระบบทรงตัวที่แม่นยำคือจุดเด่นเฉพาะตัวของ MX-5 และในรุ่นล่าสุดนี้ก็คงคุณสมบัติดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้วยฐานล้อที่กว้าง ระบบการกระจายน้ำหนักจากหน้ารถถึงท้ายรถที่ได้สมดุลแบบ 50:50 และช่วงล่างด้านหน้าอิสระดับเบิ้ลวิชโบนที่ล้ำสมัยและหลังมัลติลิงค์ ระบบเบรก ABS สี่ล้อ ที่มาพร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ ระบบควบคุมการทรงตัว DSC (Dynamic Stability Control)
และระบบควบคุมเกียร์ให้เหมาะสมในการเข้าโค้ง AAS (Active Adaptive Shift)
ขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นช่วยเสริมความสนุกสนานในการขับขี่ใน
แบบฉบับของ MX-5 ให้คงอยู่อย่างครบครัน เบาะนั่งทรงสปอร์ต โครงสร้างหลังเบาะสีเงิน
พร้อมระบบป้องกันลมย้อนกลับ Aero Board มาตรวัดดีไซต์สปอร์ตตกแต่งด้วยกรอบสีเงิน
มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound จาก BOSE พร้อมเครื่องเล่นซีดี MP3- 6 แผ่นและลำโพง 7 ตัว
มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันกว่าเดิม กุญแจนิรภัย Immobilizer ปลอดภัยด้วย
ระบบถุงลมนิรภัยที่ด้านหน้าและด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถ
มาสด้า3 ใหม่ "MOVE Series" คือรุ่นสปอร์ตพิเศษที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยใช้คอนเซ็ปต์ของ Mazda MPS
และเน้นตลาดที่กลุ่มแฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู ซึ่งประกอบด้วย รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร
ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสปอร์ตแบบคุ้มค่า ซึ่ง "I" มาจาก "Intelligent" นั่นเอง รุ่น "i-MOVE"
นี้ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมสไตล์สปอร์ตรอบคัน เพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์เสริมความคุ้มค่าอีกมากมาย
และรุ่น "S-MOVE" เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่ง "S" มาจาก "Sport" นั่นเอง รุ่นนี้โดดเด่นด้วย DVD Touch Screen
พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator กันชนหน้าดุดันขึ้นด้วยสเกิร์ตสไตล์สปอร์ตแบบ MPS
ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้าอันมีชื่อเสียงยอมรับทั่วโลก
มาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ i-MOVE แฮ็ทซ์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร
อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษในรุ่น i-MOVE
-สปอยเลอร์หน้าดีไซน์สปอร์ต
-ไฟตัดหมอกทรง Angola Shape
-สเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลังสปอร์ต
- เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด
-ปลายท่อไอเสียสเตนเลสทรงรีเสริมมุมมองสปอร์ตจากด้านท้าย
-โลโก้ i-Move
มีให้เลือก 3 สีล้วนเป็นสีที่ตรงคอนเซ็ปต์สปอร์ต ได้แก่
- สีขาวไดมอนด์ไวท์
- สีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก
-สีเงินมูนดัสซิลเวอร์
รุ่นพิเศษนี้ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น
มาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ S-MOVE แฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษในรุ่นS-MOVE ภายนอก
-สเกิร์ตหน้าสไตล์สปอร์ต
-เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด
-โลโก้ S-MOVE

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษในรุ่นS-MOVE ภายใน
-เครื่องเล่น DVD Touch Screen TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว
พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator
พร้อมฟังก์ชั่นรองรับ Bluetooth, USB, iPod, SD Card, DVC/CD/MP3/MP4
มีให้เลือก 2 สีคือ
-สีขาวไดมอนด์ไวท์
-สีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก
ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น
ราคาจำหน่ายรถมาสด้า3 ใหม่ รุ่นพิเศษ MOVE Series
รุ่น i-MOVE เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร
ราคาเพียง 897,000 บาท
รุ่น S-Move เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 1,110,000 บาท

ราคารถสปอร์ตโรดเตอร์ Mazda MX-5 RHT ใหม่ คือ 2,640,000 บาท
ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของ Mazda MX-5 RHT ใหม่ และ
New Mazda3 รุ่นพิเศษ MOVE series ยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า
ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจสมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย
อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมรับข้อเสนอและเงื่อนไขสุดพิเศษจากมาสด้า
ทั้งนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับประกันคุณภาพนานถึง
3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

๐๗ มีนาคม ๒๕๕๒

มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ








มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ

ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปฏิเสธการถูกจับตามอง
ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพแห่งการเป็นเบอร์หนึ่งของงานมอเตอร์โชว์ประเทศไทย
หรือการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สามารถชี้อนาคตและพลิกเศรษฐกิจของประเทศ

ด้วยประการฉะนี้ ทุกความเคลื่อนไหวของ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนาในฐานะประธานจัดงาน
จึงเป็นโฟกัสที่ถูกจับตามองด้วยเช่นกัน
“งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในปีนี้ นับว่าเป็นปีที่พิเศษที่สุด เนื่องจากปีนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ภายใต้คอนเซ็ปต์งาน
“ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ” (Green Life on Wheels) ที่ยังคงตอบสนองนโยบายพลังงานทดแทนเหมือน
เช่นปีที่ผ่านมา รวมทั้งช่วยกันลดปัญหาโลกร้อนจากมลพิษที่รถยนต์ปล่อยออกมาในอากาศ
พร้อมกันนี้ยังช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนาทัดเทียมเท่ากับต่างประเทศ”

ด้านความพร้อมของงานในปีนี้ ดร.ปราจิน กล่าวว่า “ปีนี้...เป็นการจัดงานมอเตอร์โชว์ครอบรอบ 30 ปี อย่าถามว่า...
จัดใหญ่มั้ย เพราะผมจัดงานใหญ่ทุกครั้ง ปีนี้บอกตรงๆ ว่าต้องการสวนเศรษฐกิจ อยากชักชวนให้ทุกบริษัทที่เข้าร่วมงาน มาช่วยกันทำวิกฤติให้เป็นโอกาส ผมว่าประเทศไทยยังมีคนอยากซื้อรถอีกเยอะ นอกจากนี้ยังได้ขยายวันเข้าชม
จาก 10 วัน เป็น 12 วัน สำหรับบุคคลผู้สนใจทั่วไป และยังคงวัน VIP และวัน PRESS ไว้เช่นเดิม
จึงทำให้วันจัดงานในปีนี้มีทั้งหมด 14 วัน เพื่อให้ผู้ร่วมงานมีความคุ้มค่าในการลงทุน
และผู้สนใจได้มีโอกาสเข้าร่วมชมงานได้มากยิ่งขึ้น”

สำหรับพื้นที่ในการจัดงานปีนี้ยังยิ่งใหญ่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา การจัดงานปัจจุบันถือว่าไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป
ผู้ที่เข้ามาชมงานก็หมุนเวียนเข้า-ออก โดยตลอด ส่วนทางค่ายรถยนต์ยังคงเข้าร่วมภายในงานอย่างเต็มพื้นที่เช่นเดิม แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานทุกอย่างถูกวางไว้ล่วงหน้า เราก็ต้องดำเนินการจัดงานมอเตอร์โชว์ต่อไป ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี แล้วเราจะยกเลิกการจัดงาน ซึ่งไฮไลต์ในปีนี้ก็มีอยู่หลายค่าย ที่ยึดเอาเวทีนี้เป็นการเปิดตัวแนะนำยานยนต์รุ่นใหม่ของโลก อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class คูเป้, BMW X6, BMW series 7, Z4 และเปอโยต์ 407 ใหม่ และบางบริษัทก็นำรถต้นแบบมาให้ชมกัน”
“ด้านรถจักรยานยนต์ ทั้ง 4 บริษัทหลักมากันครบ ฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ และคาวาซากิ โดยจะมีรถมอเตอร์ไซค์
จากประเทศจีน มาร่วมสร้างสีสันด้วย ซึ่งทุกปี รถมอเตอร์ไซค์ ก็จะมีการจัดกิจกรรม
เพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กับงาน เป็นกิจกรรมทั้งกลางแจ้งและภายในบู๊ธ”

คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ในฐานะรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ กล่าวถึงการจัดงานในปีว่า “ที่เศรษฐกิจดูเหมือนจะไม่ค่อยสดใสเหมือนกับปีก่อนๆ ซึ่งแม้ว่าหลายๆ คนจะวิตกกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจ
แต่สำหรับคนทำธุรกิจ แม้ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ชีวิตมันก็ต้องดำเนินต่อไป วงจรธุรกิจมันมีขึ้นมีลง
เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่มีการขึ้นสุด และลงสุด มันเป็นวัฏจักร ช่วงนี้เราผ่านความลำบากมาสุดๆ แล้ว
เชื่อว่าคงไม่มีอะไรลำบากมากกว่านี้อีกแล้ว”

มอเตอร์โชว์ปีนี้ นับว่าเป็นปีที่พิเศษ เนื่องจากว่าครบรอบ 30 ปี ในฐานะที่เข้ามารับผิดชอบการจัดงานนี้กว่า 20 ปี
“คุณจาตุรนต์” กล่าวว่า “การจัดงานมอเตอร์โชว์ ถือได้ว่าเป็นการผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนา
มีการเจริญเติบโตไปในทางที่ดีขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้มีการแข่งขันให้ผู้ผลิตรถได้นำเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาเสนอให้กับคนไทย ถ้าไม่มีงานแสดงรถยนต์ ก็จะไม่มีการเปรียบเทียบและการแข่งขันในเรื่องเทคโนโลยี”
ในส่วนของกิจกรรมภายต่างๆ ภายในงานนั้น ผู้จัดยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจาก Car Club ไม่ว่าจะเป็น
คลาสิกไบค์ ซูเปอร์คาร์ ที่มาเป็นส่วนหนึ่งกับสีสันภายในงาน นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานแล้ว
อีกสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้เห็นและได้สัมผัสก็คือ “คอนเซ็ปต์คาร์” รถแนวคิดต่างๆ ที่ทางค่ายรถยนต์ต่างนำเข้ามาอวดโฉมเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องเสียเงินทองเสียเวลาไปหาชมกันถึงต่างประเทศ แม้ว่าจะต้องมีการลงทุนสูงทั้งในเรื่องของการขนส่ง และการดูแลก็ตาม ทั้งนี้ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของค่ายรถยนต์ว่า
เขาไม่ได้หยุดนิ่งเพียงแค่นี้
แต่ได้เตรียมพัฒนารถของตนเองไปสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์หรือเทคโนโลยีก็ตาม
ส่วนบัตรเข้าชมงานในปีนี้ มีการปรับเปลี่ยนราคาเล็กน้อย จากราคาจำหน่ายที่ 80 บาท เพิ่มมาเป็นราคา 100 บาท อย่างไรก็ตาม ยังสามารถนำหางบัตรส่งเข้าชิงรางวัลได้เช่นเคย อาทิ รถเก๋ง และรถกระบะ รถจักรยานยนต์ และรางวัลอื่นๆ
ได้เหมือนทุกปี ซึ่งในปีนี้เนื่องจากครบรอบ 30 ปีของการจัดงาน เราจึงได้เปิดโอกาสในการจับฉลากให้แก่ผู้โชคดีในปีนี้มากยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มของรางวัลให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาชมงาน ได้มีโอกาสลุ้นรางวัลมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับทาง AIS จัดกิจกรรมส่ง SMS ลุ้นโชค ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มูลค่า 549,000 บาท
ตั้งแต่วันนี้-15 พฤษภาคม 2552 ยิ่งส่งมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก

ในส่วนบรรยากาศของงานนั้น “ดร.ปราจิน” คงตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองการจัดงานครบรอบ 30 ปี
“ผมเรียนไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ปีนี้เป็นการฉลองการจัดงานครบ 30 ปี ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอย่างไร ผมก็ต้องจัดงานให้ยิ่งใหญ่ เพราะได้เชิญสื่อต่างชาติ ทั้งญี่ปุ่น เอเชีย อาเซียน และอเมริกา ไว้เรียบร้อยแล้ว
ผมเชื่อว่าสื่อเหล่านี้จะทำให้เกิดภาพที่ดีกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไปทั่วโลก”
อย่างไรก็ตาม “ผมอยากเชื้อเชิญคนไทยที่มีโอกาส ให้เดินทางมาเยี่ยมชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 ซึ่งผมจัดไว้อย่างยิ่งใหญ่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบครัน ไม่ว่าจะเป็นรถรับส่งปรับอากาศชั้นดี
ที่พักผ่อนระหว่างชมงาน สิ่งสำคัญ...นี่เป็นอีกงาน ที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย
เป็นงานหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่จะเป็นส่วนสำคัญกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทย”
ดร.ปราจิน กล่าวทิ้งท้ายและในโอกาสนี้ ผู้สื่อข่าวจาก มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ยังได้มอบโล่เกียรติยศ
ให้กับผู้จัด งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของการจัดงานอีกด้วย
สำหรับคนไหนที่อยากจะเข้าชมงานมอเตอร์โชว์2009นะครับ
งานนี้จะจัดในวันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน 2552 ที่ไบเทค บางนา
ออโต้ไทยแลนด์ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาฝาก ก็ติดตามกันด้วยนะครับ