AUTO THAILAND's Fan Box

AUTO THAILAND on Facebook

Facebook Fanpage QR Code

qrcode

เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!

๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๑

สมาร์ท คาราวาน 8,800 กม.กับไฮลักซ์ วีโก้ใหม่ สมาร์ท แค็บ






สมาร์ท คาราวาน 8,800 กม.กับไฮลักซ์ วีโก้ใหม่ สมาร์ท แค็บ


เปิดโลกสวยงามเมืองไทย ไปกับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สมาร์ท คาราวาน 8,800 กม.กับไฮลักซ์ วีโก้ใหม่ สมาร์ท แค็บ เทคโนโลยีเพื่อขีดสุดแห่งความสะดวกสบาย
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวกิจกรรม “สมาร์ท คาราวาน 8,800 กิโลเมตรรอบประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่ ห้องรามเกียรติ์ สยามนิรมิต กรุงเทพฯ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “คาราวาน ไฮลักซ์ วีโก้ ได้สร้างประวัติศาสตร์การเดินทางโดยรถยนต์บนเส้นทางอันยาวไกล มาตั้งแต่ ปี 2547 ถึง 2550 ไปยังดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ และเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเดินทางทั่วโลก จากกรุงเทพ ลีเจียง ทิเบตและเส้นทางสายแพรไหมไปสิ้นสุดที่ประเทศอุซเบกิสถาน ในการเดินทางทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ก็ได้นำเรื่องราวกลับมาถ่ายทอดให้คนไทยได้รับทราบ ไม่ว่าจะเป็น ความสวยงามของภูมิประเทศ ผู้คน วัฒนธรรม ประเพณี สถานที่ศักดิ์สทธิ์ และในครั้งนี้ เรามองว่าเมืองไทยก็มีสิ่งที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ ภูมิทัศน์ที่สวยงามมีความหลากหลายของวัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตร์ และน่าจะนำมาเผยแผ่ให้คนไทยได้รับทราบ ประกอบกับ เราได้แนะนำ ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ สมาร์ท แค็บ รถกระบะที่ออกแบบสำหรับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ เข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เราจึงได้จัดการเดินทางสมาร์ท คาราวาน 8,800 กม.ทั่วไทย ขึ้นเพื่อถ่ายทอดความสวยงามของเมืองไทย และตอกย้ำถึงอรรถประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบายในการขับขี่ ของ ไฮลักซ์ วีโก้ สมาร์ท แค็บ ตลอดการเดินทาง”
“สมาร์ท คาราวาน จะเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ อีกครั้งหนึ่ง ของไฮลักซ์ วีโก้ โดยมีระยะเวลาการเดินทางตั้งแต่วันที่ 3 - 25 ธันวาคม เป็นเวลา 23 วัน รอบประเทศไทย จากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ชมความสวยงามของทะเลอ่าวไทย ผ่านใต้สุดของสยาม และทะเลสีครามของอันดามัน จากนั้นขับผ่านผืนป่าตะวันตกของประเทศ เข้าสู่ภาคเหนือ เลียบแม่น้ำโขง เข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ตะวันออกสุดของสยาม ผ่านชายฝั่งทะเลตะวันออก สิ้นสุดการเดินทางที่ กรุงเทพมหานคร รวมระยะทาง 8,800 กิโลเมตร โดยตลอดการเดินทาง จะสัมผัสความหลากหลายของผู้คน วัฒนธรรม ประเพณี ความสวยงามของสถานที่ ตลอดจนพบปะบุคคลที่น่าสนใจ พร้อมได้นำเสนอประสบการณ์อันล้ำค่า ในการเดินทางมาถ่ายทอดให้ชาวไทย ได้รับรู้ นับเป็นที่การเดินทางน่าจดจำครั้งหนึ่ง” นายวุฒิกรกล่าว สมาร์ท คาราวาน ประกอบด้วย ลูกค้า ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ สมาร์ท แค็บ จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมกับสื่อมวลชน กว่า 50 ชีวิต ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการเดินทางตลอด 23 วัน รอบประเทศไทย นับเป็นคาราวานครั้งประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งของประเทศไทย ที่จะมีผู้ร่วมเดินทางมากที่สุดโดยรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ สมาร์ทแค็บ นอกจากจะเป็นการทดสอบสมรรถนะของรถกระบะ ไฮลักซ์ วีโก้ สมาร์ท แค็บ แล้ว ยังเป็นการเปิดโลกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและส่งเสริมเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
“สิ่งที่เป็นพิเศษของการเดินทางครั้งนี้ โตโยต้า ได้เชิญนักวิชาการที่มีความรู้ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์กับคาราวาน ในเรื่องราวต่างๆ ทั้งด้านวิถีชีวิต ผู้คน สถานที่สำคัญ และประเพณีท้องถิ่น ตลอดการเดินทาง ทำให้การเดินทางมีเรื่องราวที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวา อาทิอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ,อาจารย์ทรงยศ แววหงษ์,อ.สมฤทธิ์ ลือชัย,ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์,อ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ หรือ นักเดินทางอย่างคุณธีรภาพ โลหิตกุล”
“สมาร์ท คาราวาน จะร่วมงานสำคัญๆ ของจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ และนำสิ่งดีงามไปมอบให้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลน โดยจะนำอุปกรณ์การศึกษา เสื้อผ้ากันหนาวและผ้าห่ม ไปมอบให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 2 แห่ง ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดสุรินทร์ ชมงานแสดงแสงสีเสียง สะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมเงินสมทบทุนบูรณะสะพานข้ามแม่น้ำแคว ร่วมศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่บางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยจะนำภาพของการเดินทาง ออกอากาศให้คนไทยได้เห็นความสวยงามและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศทุกวัน ทางรายการ สยามทูเดย์ ทาง ททบ.5 เราเชื่อมั่นว่า สมาร์ท คาราวาน 8,800 กม. จะเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ ที่เปิดโลกสวยงามของไทย และทำให้คนไทยรักเมืองไทยมากขึ้น” นายวุฒิกร กล่าวในที่สุด

ขอเชิญลูกค้า ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ สมาร์ท แค็บ ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง สมาร์ท คาราวาน 8,800 กม.สอบถามได้ที่ 1800 – 238 444 หรือ website www.vigosmartcaravan.com
ร่วมสัมผัสประสบการณ์กับการเดินทาง ในรายการ สยามทูเดย์ ทาง ททบ.5ทุกวัน เวลา 18.00 น. ตั้งแต่ 3-25 ธันวาคม 2551
เปิดโลกการเดินทาง กับไฮลักซ์ วีโก้
คาราวานไฮลักซ์ วีโก้ ได้เริ่มต้นเดินทางในรูปแบบคาราวานเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยได้สร้างตำนานการเดินทางอันยาวไกลจากประเทศไทย ไปยังดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และนักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝ้นได้ไปเยือน ออกเดินทางครั้งแรกในเดือนกันยายน 2547 ไปยังเมืองมรดกโลก ลี่เจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเส้นทางสุดโหดของเทือกเขาสูงในลาวเหนือ ลัดเลาะเลียบหน้าผาชัน ก่อนเข้าสู่ชายแดนจีนมุ่งหน้าไปตามถนนสายไฮเวย์ บางกอก-คุนหมิง ไปสิ้นสุดที่ภูเขาหิมะมังกรหยก เมืองลี่เจียง
และอีก 1 ปีต่อมา คาราวานไฮลักซ์ วีโก้ เดินทางต่อจากเมืองลี่เจียง สู่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต ดินแดนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหลังคาของโลก ผ่านเส้นทางสุดโหดในหลายรูปแบบ ตลอดเส้นทาง 2,548 กม. ที่ขับโดยสื่อมวลชนเป็นระยะเวลา 12 วัน หรือ รวมตลอดการเดินทางจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทางกว่า 11,000 กม.ตลอด 34 วัน ผ่านระดับความสูงตั้งแต่ 2.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลที่กรุงเทพฯ จนถึงระดับความสูงกว่า 5,000 เมตร บนดินแดนหลังคาโลก นับเป็นการทดสอบที่ทรหด แต่ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นของไฮลักซ์ วีโก้ ทำให้อุปสรรคต่างๆ ตลอดการเดินทาง เป็นไปอย่างราบรื่น และง่ายดาย ซึ่งในแต่ละวัน ใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 10-15 ชั่วโมง พลังจากเครื่องยนต์คอมมอนเรล ดีโฟร์ดี เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ให้แรงบิดเพียงพอสำหรับการไต่ระดับ พร้อมด้วยสมรรถนะของช่วงล่าง ที่ความนุ่มนวล แข็งแกร่ง ง่ายต่อการบังคับควบคุม ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย ไม่เมื่อยล้า เป็นเวลายาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ตลอดเวลา 12 วัน ผ่านระดับความสูงเฉลี่ย 2,700-3,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางครั้งที่ 3 ที่คาราวานของไฮลักซ์ วีโก้ ได้เริ่มเดินทางบนเส้นทางสำคัญของเอเชียขบวนคาราวาน 20 คัน ออกเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2550 มุ่งหน้าตามไฮเวย์สายคุนหมิง-บางกอก ผ่านเมืองหลวงน้ำทา ของ “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” เข้าสู่ ชายแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนาน มุ่งหน้าสู่เมืองซีอาน เป็นระยะเวลา 8 วัน เพื่อรอคณะสื่อมวลชน ที่จะบินจากกรุงเทพฯ ไปยังเมือง “ซีอาน” เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของคาราวานไฮลักซ์ วีโก้ บนทางสายแพรไหม ไปสิ้นสุดที่เมืองทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน เส้นทางสายแพรไหม ที่มีจุดเริ่มต้นจากนครฉางอาน หรือซีอานในปัจจุบัน ไปสิ้นสุดที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก มายาวนานกว่า 2,000 ปี ตลอดระยะเวลา 14 วัน ของการเดินทางนับจากนี้ บนเส้นทางกว่า 5,000 กม. ข้ามที่ราบระหว่างทะเลทรายโกบี และตากลามากัน ที่แห้งแล้ง และร้อนระอุ มุ่งหน้าสู่ตะวันตกเลียบเทือกเขาเทียนซานที่สูงใหญ่ มีความยาวกว่า 250 กิโลเมตร เข้าสู่เขตทุ่งหญ้าแพรรี่ของประเทศคาซัคสถาน และสิ้นสุดที่เมืองทัชเค้นท์ ศูนย์กลางของเอเชียกลาง ซึ่งจะเป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบของคณะสื่อมวลชน ทั้งนี้ ขบวนคาราวานของไฮลักซ์ วีโก้ จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางเดิม รวมระยะทางทั้งสิ้น 18,000 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 43 วันคาราวาน ไฮลักซ์ วีโก้ สู่เส้นทางสายแพรไหมในครั้งนั้น โตโยต้า ได้นำรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ ไฮลักซ์ วีโก้ พรีรันเนอร์ และฟอร์จูนเนอร์ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมทั้งสิ้น 20 คัน โดยไฮไลท์ของการทดสอบ เราได้จัดให้มีการทดสอบสมรรถนะประหยัด ด้วยน้ำมัน 1 ถัง กับระยะทาง 1,465 กิโลเมตร สำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 2500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเล่อร์ และ ระยะทาง 1,200 กิโลเมตร สำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ พรีรันเนอร์ เครื่องยนต์ 3000 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเล่อร์ ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายความสามารถของสื่อมวลชนกับ ไฮลักซ์ วีโก้ ณ จุดสิ้นสุดการทดสอบที่ เนินทรายหมิงซาซา ที่เมืองตุนหวง
Toyota Hilux Vigo ดีเซล คอมมอนเรล 2500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์ คูลเลอร์ บทท้าทาย 1,510 กม. กับน้ำมันหนึ่งถัง ข้ามสามมณฑล
หลังจากเติมพลังด้วยอาหารจีน ในโรงเตี๊ยมเล็กๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาราวานไฮลักซ์ วีโก้ ขับไต่เทือกเขาสูงเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด ระยะทางผ่านไปอีก 105 กิโลเมตร จึงพักเติมน้ำมันเพื่อเริ่มต้นกิจกรรม Eco Run Challenge ท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมันของไฮลักซ์ วีโก้ ด้วยน้ำมัน 1 ถัง กับระยะทาง 1,400 กิโลเมตร และ ไฮลักซ์ พรี รันเนอร์ ด้วยน้ำมัน 1 ถัง กับระยะทาง 1,200 กิโลเมตร กับการขับในรูปแบบคาราวาน มันเป็นความท้าทายที่ต้องมีการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล ที่ใช้ความเร็วระหว่าง 90-100 กม./ชม. กับน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังที่ 76 ลิตร ในขบวนรถทั้งหมด 22 คัน เวลาเริ่มจะพลบค่ำ ความท้าทายที่เกิดขึ้นครั้งแรกเลยนั้น ไม่ใช่เรื่องของความมืดบนท้องถนน แต่กลับเป็นหมอกที่หนาแน่นลงมาปกคลุมบนพื้นถนนที่เปียกชื้น ชนิดที่เรียกว่า ต้องขับให้ชิดกับคันหน้าเพื่อมองสัญญาณไฟฉุกเฉินที่กระพริบให้เห็นเป็นจังหวะ ความเร็วแม้จะทำได้ไม่มากนักแต่ก็อยู่ในช่วง 90-110 กม./ชม. ระยะทางในช่วงแรกของวันแรกที่เริ่มขับประหยัดน้ำมันนั้นอยู่ที่ 198 กม.บนถนนกำลังก่อสร้าง อุณหภูมิภายนอกที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ ประกอบกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้เครื่องวัดอุณหภูมิของ Fortuner แสดงผลตัวเลขตัวเดียว ใบปัดน้ำฝนยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา กว่า 8 ชั่วโมงแล้ว เกล็ดน้ำแข็งที่ เกาะผิวกระจกหน้า และยางปัดที่แข็งตัว ความหนาวเย็นได้แทรกผ่านถุงมือจนนิ้วทั้งสิบ และเท้าทั้งสองข้าง จนไร้ความรู้สึก เราต้องอบอุ่นร่างกายเป็นระยะ
กว่าจะถึงจุดหมายที่หลานโจว ปาเข้าเกือบ 4 ทุ่ม

เช้าวันรุ่งขึ้น จากหลานโจวไปเมืองจางเย่ ระยะทางประมาณ 545 กม. ซึ่งยังคงอยู่บนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็น เลียบผ่าน สภาพถนนลาดยาง 2 เลนสวนสลับทางด่วน 4 เลน เมืองหลานโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ มณฑลกานซูตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำฮวงโห หรือแม่น้ำเหลือง แม่น้ำฮวงเหอเป็นมหานทีอันยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในสองสิ่งที่องค์ฮ่องเต้ต้องทำพิธีบวงสรวง ตามคติของชาวจีนนั้น แม่น้ำฮวงเหอ เป็นเทพที่ไม่มีรูปลักษณ์ หลังจากลงจากที่สูงลงมา สภาพอากาศเริ่มจะดีขึ้น แต่อุณหภูมิภายนอกก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ 10 แต่ความเร็วในช่วงที่ใช้ยังคงอยู่ที่ 90-100 กม./ชม.ลมจากภายนอกเริ่มแรงขึ้น ในวันนี้เรามาถึงที่พักเร็วกว่าวันวาน เรียกว่ายังมองเห็นแสงตะวันอยู่ ระยะทางทั้งหมดผ่านไปแล้ว 726 กม. เข็มบอกระดับน้ำมันลงไปเกือบครึ่งถัง
วันที่สามของการท้าทาย รถทุกคันยังมีน้ำมันมากกว่าครึ่งถังนิดหน่อยซึ่งดูจากเกจ์วัดระดับน้ำมัน วันนี้สภาพเส้นทางจะอยู่บนทางด่วนเป็นส่วนใหญ่ แต่ก่อนจะขึ้นทางด่วนต้องวิ่งในเมืองฝ่าการจราจรไม่น้อยทีเดียว กระนั้นก็ตามเมื่อขึ้นทางด่วนแล้ว ความเร็วของรถหลายคัน อยู่ในช่วง 60-80 กม./ชม. และบางช่วงถีบความเร็วขึ้นไปที่ 80-90 กม./ชม.
วันที่สามของการท้าทาย การขับท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมันในวันนี้ เป็นการขับตามปกติของขบวนคาราวาน มีการใช้อัตราเร่งอยู่เสมอเพื่อให้เครื่องยนต์มีแรงบิดที่จะขับตามกัน โดยเฉพาะเมื่อขบวนคาราวานต้องขับผ่านเขตเมืองที่มีการจราจรแน่นหนา และสัญญาณไฟจราจรอยู่มาก และต้องรักษาเวลาในการเดินทางเพื่อมิให้ไปถึงจุดหมายช้าเกินไป
เมื่อมาถึงหลัก 1,200 กม. ไฮลักซ์ วีโก้ เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์ คูลเล่อร์ ยังมีปริมาณน้ำมันเหลืออยู่หนึ่งขีด สภาพเส้นทางในช่วงนี้เป็นถนนเลนเดียว มีรถวิ่งสวนไปมาตลอดระยะทาง และเมื่อถึงจุดหมาย หน้าปัทม์ บอกระยะที่วิ่งไปแล้ว 1318 กม. และเริ่มมีไฟสัญญาณเตือนขึ้น บนถนนไฮเวย์ ความเร็วระหว่าง 100-120 กม./ชม. รถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ 2.5 IC สามารถผ่านระยะทางที่เป้าหมายที่ต้งไว้ 1,400 กิโลเมตร ที่เนินทราย หมิงซาซาน เมืองตุนหวง ได้อย่างสบาย และมีรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ 2.5 IC ที่ผ่านความท้าทาย 1,500 กิโลเมตร จำนวน 5 คัน และสามารถทำระยะทางได้ไกลสุดถึง 1,510 กม.และไฮลักซ์ วีโก้ พรีรันเนอร์ เครื่องยนต์ 3000 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเล่อร์ มีระยะทางท้าทายตั้งไว้ 1,200 กิโลเมตร นั้นสามารถผ่านระยะทาง 1,200 กิโลเมตร ได้ 3 คัน และ
สามารถวิ่งเป็นระยะทางได้ไกลสุดถึง 1,460 กม.

ไฮลักซ์ วีโก้ Smart Cab ใหม่เทคโนโลยีเพื่อขีดสุดแห่งความสะดวกสบาย
รถกระบะอัจฉริยะ ออกแบบโดยวิศวกรคนไทย จากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโตโยต้า ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองการใช้งานของคนไทย เปิดชีวิตตอบรับทุกการใช้งาน ตอบสนองอรรถประโยชน์สูงสุด พร้อมบานเปิด สะดวกสบายทุกการเข้าออก พื้นที่กว้างขวางสำหรับการบรรทุกสิ่งของ
รูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นทั้งภายในและภายนอก สะดวกสบายทุกการเข้าออกและการใช้งานด้วยประตูและบานเปิด Smart Cabý ที่เปิดกว้างได้มากถึง 92 องศา เพิ่มความกว้างของทางเข้า-ออกห้องโดยสารอีก 51 เซนติเมตร เสริมด้วยเทคโนโลยีระบบล็อค 2 ชั้น เพิ่มอรรถประโยชน์ของการใช้งาน ปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการหนีบขณะปิด พร้อมสัญญาณเตือนเมื่อบานเปิดปิดไม่สนิท พื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กระจังหน้าลายใหม่ สะท้อนบุคลิกเข้มแข็ง ดุดัน - โคมไฟคู่หน้าใหม่ แบบฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ ส่องสว่าง ชัดเจน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า ล้ออัลลอยลายใหม่และยางขนาดใหญ่ 215/65R16 ในรุ่นระบบขับเคลื่อนสองล้อ และ 255/70 R15C ในรุ่นพรีรันเนอร์ และขับเคลื่อนสี่ล้อ
สบายเหนือระดับ กับความหรูหราของห้องโดยสาร พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แผงคอนโซลกลางและแผงควบคุมข้างประตูสีเมทัลลิก พร้อมมาตรวัดเรืองแสง “Optitron” (เฉพาะในรุ่น 2.5G,2.7G,3.0G) ชุดเครื่องเสียง แบบ 2 Din 1CD รองรับ MP3 และ WMA จอแสดงข้อมูลจากการขับขี่ (Multi-Information Display) (เฉพาะในรุ่น 2.5G,2.7G,3.0G)แสดงข้อมูลได้ 7 โหมดคือ อุณหภูมิภายนอก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในขณะขับขี่ ความเร็วของรถโดยเฉลี่ย ระยะเวลาในการขับขี่ ระยะทางในการขับขี่ และเข็มทิศ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบ Jam-Protection ด้านคนขับ - กระจกมองข้างแบบปรับอัตโนมัติ...(Electrical Retraction) พับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
ช่วงล่างปรับใหม่ เพื่อความนุ่มนวลสะดวกสบายในการขับขี่ กุญแจรีโมท Immobilizer
พร้อมระบบหน่วงการโจรกรรม TDS (เฉพาะในรุ่น 2.5G,2.7G,3.0G)

ปลอดภัย มั่นใจ ในทุกการขับขี่ ดิสก์เบรกขนาด 15 นิ้ว เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้น ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า ปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากแรงกระแทกด้านหน้า ด้วยถุงลมระบบ Dual SRS Airbag (เฉพาะในรุ่น 2.5G,2.7G,3.0G) ระบบเบรก ABSý (Anti-lock Braking System) ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรกโดยอัตโนมัติ จากการตรวจจับของเซ็นเซอร์จากล้อทั้ง 4 ล้อ ซึ่งควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางและหักหลบสิ่งกีดขวางได้ในขณะเบรก (เฉพาะในรุ่น 2.5G,2.7G,3.0G และ Prerunner 3.0E ABS) โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานประตูใหญ่ขึ้น และหนากว่าเดิม คานกันกระแทกด้านข้าง - พวงมาลัยแบบยุบตัวได้– เข็มขัด ELR 3 จุด ปรับระดับสูงต่ำได้ - แป้นเหยียบเบรกแบบยุบตัวได้ – วาล์วตัดน้ำมันอัตโนมัติ - โครงเสาหลังคา และหลังคารถด้านในได้รับการออกแบบให้มีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ช่วยผ่อนแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บรุนแรง บริเวณศีรษะของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
มี 3 เครื่องยนต์ให้เลือก
เครื่องยนต์ 1 KD-FTV (I/C) 3.0 ลิตรดีเซลคอมมอนเรล
เจนเนอเรชั่นที่ 2 ไดเร็กอินเจกต์ชัน 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์

เครื่องยนต์ 2KD-FTV (I/C) 2.5 ลิตรดีเซลคอมมอนเรล
เจนเนอเรชั่นที่ 2 ไดเร็กอินเจกต์ชัน 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์

เครื่องยนต์ 2 TR-FE 2.7 ลิตร VVT-i
DOHC 16 วาล์วเครื่องยนต์เบนซิน ตอบสนองนุ่มนวล...ด้วยเทคโนโลยีระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i

พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของ ด้วย 10 รุ่นมาตรฐาน
3.0 G สมาร์ทแค็บ 4WD สีเมทัลลิก ราคา 774,000 บาท
3.0 E สมาร์ทแค็บ 4WD สีเมทัลลิก ราคา 724,000 บาท
2.5 E สมาร์ทแค็บ 4WD สีเมทัลลิก ราคา 689,000 บาท
3.0 E สมาร์ทแค็บ (พรีรันเนอร์ ABS) ราคา 685,000 บาท
3.0 E สมาร์ทแค็บ (พรีรันเนอร์) ราคา 656,000 บาท
3.0 G สมาร์ทแค็บ สีเมทัลลิก ราคา 688,000 บาท
2.7 G สมาร์ทแค็บ เกียร์อัตโนมัติ เครื่องเบนซิน ราคา 669,000 บาท
2.5 G สมาร์ทแค็บ สีเมทัลลิก ราคา 653,000 บาท
3.0 E สมาร์ทแค็บ สีเมทัลลิก ราคา 629,000 บาท
2.5 E สมาร์ทแค็บ สีเมทัลลิก ราคา 605,000 บาท

ไฮลักซ์ วีโก้ Smart Cab ใหม่ เทคโนโลยีเพื่อขีดสุดแห่งความสะดวกสบาย

ไม่มีความคิดเห็น: