ตัวจริงเสียงจริงเตรียมลงตลาดในเมืองไทย
Facebook Fanpage QR Code
เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๑
วีโก้ของประเทศลาว
ไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นใหม่(รุ่นแค็ปเปิดได้"Smart Cab")
๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๑
ฮอนด้าชูกิจกรรมแนวใหม่ เน้นความล้ำสมัยรถ เอ.ที. หัวฉีดรุ่นแรก Click-i
ฮอนด้าชูกิจกรรมแนวใหม่ เน้นความล้ำสมัยรถ เอ.ที. หัวฉีดรุ่นแรก Click-i
พร้อมจัดแข่งขัน Popping Dance สุดยอดการเต้น ตอกย้ำภาพผู้นำรถจักรยานยนต์
ฮอนด้าตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำรถจักรยานยนต์ รุกจัดกิจกรรมแนวใหม่ที่ผสมผสานความสนุกสนานในรูปแบบหลากหลาย ผ่านทางรถรุ่นใหม่ล่าสุด Click-i ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมล้ำสมัยของรถแบบ เอ.ที. หัวฉีดรุ่นแรก โดยงานกิจกรรมจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Futuristic Fun Experience มีชื่องานว่า "C'mon Everybody…Click-
ฮอนด้าตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำรถจักรยานยนต์ รุกจัดกิจกรรมแนวใหม่ที่ผสมผสานความสนุกสนานในรูปแบบหลากหลาย ผ่านทางรถรุ่นใหม่ล่าสุด Click-i ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมล้ำสมัยของรถแบบ เอ.ที. หัวฉีดรุ่นแรก โดยงานกิจกรรมจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Futuristic Fun Experience มีชื่องานว่า "C'mon Everybody…Click-
ปฏิวัติความมันส์วันคลิก" พร้อมดึงพรีเซ็นเตอร์ Click-i "บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว" และเหล่าศิลปินมากมายร่วมสร้างสีสันบนลานกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันถึงสองแห่ง ณ บริเวณศูนย์รวมกลุ่มคนรุ่นใหม่ สยาม แสควร์ และที่สำคัญได้จัดให้มีการแข่งขันสุดยอดการเต้นแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม Popping Dacnce จากกลุ่มนักเต้นของโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้า เพื่อเป็นการนำร่องก่อนที่จะจัดเป็นกิจกรรมใหญ่ระดับประเทศสำหรับผู้สนใจโดยทั่วไป
นางจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการจำหน่าย ส่วนงานการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า จากการที่ทางฮอนด้าได้วางตลาดรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ ฮอนด้า Click-i ซึ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ ที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ส่งผลให้เป็นรถจักรยานยนต์แบบ เอ.ที. ที่มีความประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 49 กม./ลิตร ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่า Click รุ่นเดิมถึง 16% รวมทั้งยังให้ไอเสียสะอาดผ่านมาตรฐานควบคุมไอเสียระดับ 6 ที่จะประกาศบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ และยังสามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 นั้น ทางฮอนด้าจึงจัดให้มีกิจกรรมเพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i
ทั้งนี้เพื่อให้งานกิจกรรมสามารถสะท้อนและเชื่อมโยงกับฮอนด้า Click-i ที่เป็นนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ล้ำสมัย กิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นกิจกรรมในรูปแบบใหม่ มีชื่องานว่า "C'mon Everybody…Click - ปฏิวัติความมันส์วันคลิก" ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Futuristic Fun Experience" อันเป็นการนำเสนอความสนุกสนานที่ผสมผสานกันหลากหลายแบบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้จัดให้มีการแข่งขันสุดยอดการเต้นแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมคือ Popping Dance ที่นำมาใช้ในภาพยนตร์โฆษณาฮอนด้า Click-i ทางทีวี โดยเป็นการแข่งขันของกลุ่มนักเต้นจากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทยถึง 12 แห่ง และการจัดประกวดในกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำร่องก่อนที่จะจัดเป็นกิจกรรมใหญ่ระดับประเทศสำหรับผู้สนใจโดยทั่วไป
โดยรายละเอียดเบื้องต้นของการจัดแข่งขัน Popping Dance ในระดับประเทศสำหรับกลุ่มผู้สนใจโดยทั่วไปนั้น จะคัดเลือกทีมเต้นที่ชนะจากแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งให้มีจัดขึ้นทั้งหมด 18 จังหวัด และคัดเลือกทีมชนะรวมทั้งสิ้น 30 ทีม เพื่อเข้ามาแข่งขันชิงชนะเลิศในระดับประเทศ ทั้งนี้กำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันมีอายุระหว่าง 15-25 ปี และสมัครแข่งขันเป็นทีมๆ ละ 3-5 คน ส่วนกำหนดการแข่งขันจะจัดให้มีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ หรือที่ www.aphonda.co.th
สำหรับ "C'mon Everybody…Click - ปฏิวัติความมันส์วันคลิก" จัดให้มีขึ้นพร้อมกันบนลานกิจกรรมสองแห่ง ณ บริเวณศูนย์รวมกลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ สยาม สแควร์ ได้แก่ ลานกิจกรรมด้านหน้าฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ และลานกิจกรรมโบนันซ่า โดยที่ลานกิจกรรมด้านหน้าฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ นั้น ประกอบไปด้วยหลากหลายกิจกรรมย่อย อาทิ การจัดแสดงมุมโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้า คือ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM-FI ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยการทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงทั้งในด้านการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ให้ไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น , มุมจัดแสดงรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ล่าสุด คือ Click-i รวมถึง Click-i ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษด้วยลวดลายกราฟฟิค E20 อันเป็นการสะท้อนถึงรถจักรยานยนต์รุ่นนี้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ซึ่งเพิ่มความประหยัดให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงการจัดโชว์รถรุ่นใหม่อีกรุ่นของฮอนด้าที่ติดตั้งระบบ PGM-FI และเพิ่งวางตลาดไปเมื่อเร็วๆ นี้ คือ รุ่น CZ-i 110 , มุมเล่นเกมส์ในรูปแบบหลากหลาย (Click Power Hit , Click Quake , Click Tetris , Click Splash) และการเพ้นท์สีบนกระเป๋าผ้า , การแสดงจากพรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i คือ "บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว" , การแสดงโชว์ Popping Dance จากทีมนักเต้นระดับนานาชาติ รวมถึงการแข่งขัน Popping Dance ของทีมแข่งขันจากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทย 12 แห่ง และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยม เช่น Flure , Slot Machine , ก้านคอคลับ และ Modern Dog
ในขณะที่ลานกิจกรรมโบนันซ่า ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย อาทิ การจัดแสดงมุมโชว์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i และ CZ-i 110 ในรูปแบบตกแต่งพิเศษอย่างหลากหลาย , การทดลองขับขี่ (Test Riding) ฮอนด้า Click-i และ CZ-i 110 บนพื้นที่ที่ตกแต่งเป็นสนามทดลองขับขี่พิเศษ , การโชว์ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผาดโผน (Stunt Show) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและของสะสมฮอนด้า (Honda Collection) ในราคาพิเศษ เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีเหล่าศิลปินนักร้องและนักแสดงยอดนิยมมากมายมาให้ความสนุกสนานด้วยการร่วมเล่นเกมส์ และร่วมทดลองขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i , CZ-i 110 ตลอดจนร่วมเพ้นท์สีบนกระเป๋าผ้า ซึ่งนำโดยกลุ่มศิลปินที่เป็น PGM-FI ทีม ได้แก่ แชมป์ - พีรพล เอื้ออารียกุล , แพตตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา และศิลปินอีกหลากหลาย อาทิ มาริโอ้ เมาเร่อ , สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข รวมถึง บอย AF2 - พิษณุ นิ่มสกุล ส่วนทีมแข่ง Popping Dance จากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทยทั้ง 12 แห่ง ประกอบด้วย Street Dancer School , Freesoul Studio , Speed Dancer , House of Pro : Studio Dancing , D-Dance Troupe , I.Pers HipHop & Dance School , Dance Club Studio , Mozart Academy , E-Muzic , HJ Entertainment , Le Studio (Art of Dance) และ Dancemania
ข้อมูลจากwww.aphonda.co.th
นางจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการจำหน่าย ส่วนงานการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า จากการที่ทางฮอนด้าได้วางตลาดรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ ฮอนด้า Click-i ซึ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ ที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ส่งผลให้เป็นรถจักรยานยนต์แบบ เอ.ที. ที่มีความประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 49 กม./ลิตร ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่า Click รุ่นเดิมถึง 16% รวมทั้งยังให้ไอเสียสะอาดผ่านมาตรฐานควบคุมไอเสียระดับ 6 ที่จะประกาศบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ และยังสามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 นั้น ทางฮอนด้าจึงจัดให้มีกิจกรรมเพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i
ทั้งนี้เพื่อให้งานกิจกรรมสามารถสะท้อนและเชื่อมโยงกับฮอนด้า Click-i ที่เป็นนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ล้ำสมัย กิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นกิจกรรมในรูปแบบใหม่ มีชื่องานว่า "C'mon Everybody…Click - ปฏิวัติความมันส์วันคลิก" ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Futuristic Fun Experience" อันเป็นการนำเสนอความสนุกสนานที่ผสมผสานกันหลากหลายแบบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้จัดให้มีการแข่งขันสุดยอดการเต้นแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมคือ Popping Dance ที่นำมาใช้ในภาพยนตร์โฆษณาฮอนด้า Click-i ทางทีวี โดยเป็นการแข่งขันของกลุ่มนักเต้นจากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทยถึง 12 แห่ง และการจัดประกวดในกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำร่องก่อนที่จะจัดเป็นกิจกรรมใหญ่ระดับประเทศสำหรับผู้สนใจโดยทั่วไป
โดยรายละเอียดเบื้องต้นของการจัดแข่งขัน Popping Dance ในระดับประเทศสำหรับกลุ่มผู้สนใจโดยทั่วไปนั้น จะคัดเลือกทีมเต้นที่ชนะจากแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งให้มีจัดขึ้นทั้งหมด 18 จังหวัด และคัดเลือกทีมชนะรวมทั้งสิ้น 30 ทีม เพื่อเข้ามาแข่งขันชิงชนะเลิศในระดับประเทศ ทั้งนี้กำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันมีอายุระหว่าง 15-25 ปี และสมัครแข่งขันเป็นทีมๆ ละ 3-5 คน ส่วนกำหนดการแข่งขันจะจัดให้มีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ หรือที่ www.aphonda.co.th
สำหรับ "C'mon Everybody…Click - ปฏิวัติความมันส์วันคลิก" จัดให้มีขึ้นพร้อมกันบนลานกิจกรรมสองแห่ง ณ บริเวณศูนย์รวมกลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ สยาม สแควร์ ได้แก่ ลานกิจกรรมด้านหน้าฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ และลานกิจกรรมโบนันซ่า โดยที่ลานกิจกรรมด้านหน้าฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ นั้น ประกอบไปด้วยหลากหลายกิจกรรมย่อย อาทิ การจัดแสดงมุมโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้า คือ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM-FI ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยการทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงทั้งในด้านการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ให้ไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น , มุมจัดแสดงรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ล่าสุด คือ Click-i รวมถึง Click-i ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษด้วยลวดลายกราฟฟิค E20 อันเป็นการสะท้อนถึงรถจักรยานยนต์รุ่นนี้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ซึ่งเพิ่มความประหยัดให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงการจัดโชว์รถรุ่นใหม่อีกรุ่นของฮอนด้าที่ติดตั้งระบบ PGM-FI และเพิ่งวางตลาดไปเมื่อเร็วๆ นี้ คือ รุ่น CZ-i 110 , มุมเล่นเกมส์ในรูปแบบหลากหลาย (Click Power Hit , Click Quake , Click Tetris , Click Splash) และการเพ้นท์สีบนกระเป๋าผ้า , การแสดงจากพรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i คือ "บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว" , การแสดงโชว์ Popping Dance จากทีมนักเต้นระดับนานาชาติ รวมถึงการแข่งขัน Popping Dance ของทีมแข่งขันจากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทย 12 แห่ง และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยม เช่น Flure , Slot Machine , ก้านคอคลับ และ Modern Dog
ในขณะที่ลานกิจกรรมโบนันซ่า ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย อาทิ การจัดแสดงมุมโชว์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i และ CZ-i 110 ในรูปแบบตกแต่งพิเศษอย่างหลากหลาย , การทดลองขับขี่ (Test Riding) ฮอนด้า Click-i และ CZ-i 110 บนพื้นที่ที่ตกแต่งเป็นสนามทดลองขับขี่พิเศษ , การโชว์ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผาดโผน (Stunt Show) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและของสะสมฮอนด้า (Honda Collection) ในราคาพิเศษ เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีเหล่าศิลปินนักร้องและนักแสดงยอดนิยมมากมายมาให้ความสนุกสนานด้วยการร่วมเล่นเกมส์ และร่วมทดลองขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า Click-i , CZ-i 110 ตลอดจนร่วมเพ้นท์สีบนกระเป๋าผ้า ซึ่งนำโดยกลุ่มศิลปินที่เป็น PGM-FI ทีม ได้แก่ แชมป์ - พีรพล เอื้ออารียกุล , แพตตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา และศิลปินอีกหลากหลาย อาทิ มาริโอ้ เมาเร่อ , สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข รวมถึง บอย AF2 - พิษณุ นิ่มสกุล ส่วนทีมแข่ง Popping Dance จากโรงเรียนสอนการเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทยทั้ง 12 แห่ง ประกอบด้วย Street Dancer School , Freesoul Studio , Speed Dancer , House of Pro : Studio Dancing , D-Dance Troupe , I.Pers HipHop & Dance School , Dance Club Studio , Mozart Academy , E-Muzic , HJ Entertainment , Le Studio (Art of Dance) และ Dancemania
ข้อมูลจากwww.aphonda.co.th
๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๑
๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๑
มิตซูบิชิ เผยรายละเอียด"ปาเจโร สปอร์ต" ก่อนลงขายจริงตุลาคมนี้
มิตซูบิชิ เผยรายละเอียด"ปาเจโร สปอร์ต" ก่อนลงขายจริงตุลาคมนี้หลังจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง"โตโยต้า"ได้ส่งรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี(PPV: Pick Up Passenger Vehicle )
อย่าง"ฟอร์จูนเนอร์"ใหม่ ที่ทำการไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดเป็นครั้งแรก ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน
รวมถึงใส่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยเข้าไปเพียบ พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่เป็น 5 รุ่น
ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ลิตร และเบนซิน 2.7 ลิตร เคาะราคา 1.059 – 1.419 ล้านบาท
แต่สำหรับค่ายโตโยต้าคงฟันยอดขายกันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนครั้งก่อนเพราะค่ายมิตซูบิชิได้เตรียมส่งรถพีพีวีอย่าง
ปาเจโร สปอร์ต"แทนตัวเดิมอย่างจี-แวนกอนพร้อมเผยละเอียดก่อนลงขายจริงเดือนตุลาคมปีนี้
มร.มิจิโร่ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยรายละเอียดของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เอสยูวีใหม่ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะแนะนำสู่ ตลาดเมืองไทยในเดือนตุลาคมนี้ว่า มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะความแข็งแกร่ง จากโครงสร้างแชสซีส์แบบขั้นบันไดใหม่ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD ซึ่งมีพื้นฐานมาจากหลักการทำงานของระบบ All Wheel Control ของมิตซูบิชิ ทำให้เป็นรถที่มีสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ถือเป็นรถที่มีห้องโดยสารที่เงียบ ที่สุด ในรถระดับเดียวกัน ที่มีความกว้างขวาง และทันสมัยช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบาย โดยสำหรับเมืองไทย จะมีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล มีให้เลือก 2 ขนาด ที่ให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร โดยมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 950,000 บาท ถึง 1,250,000 บาท
รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสไตล์สปอร์ตมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้รับการออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด Riding-On-Demand ด้วยรูปทรงที่สวยงามทันสมัยทำให้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เป็นรถที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการใช้งานในเมือง ในขณะที่แนวคิดตามสไตล์รถ SUV ของรถบ่งบอกได้ถึงสมรรถนะที่พร้อมสำหรับการใช้งานในทุกสภาพถนน และจากการออกแบบใหม่ ผสานกับความโดดเด่นในแบบออฟโรด รวมถึงเส้นสายของการดีไซน์ ทำให้รู้สึกได้ถึงความเร็วที่มีแฝงอยู่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมรูปทรงที่ปราดเปรียว พร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบได้อย่างลงตัว พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ต ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวดุดัน กรอบกระจกมองข้างและที่เปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ช่วยเพิ่มทัศวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และไฟท้ายดีไซน์พิเศษกลมกลืนกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว ความปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยไฟเบรกดวงที่สาม และประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่ากับราวหลังคาพร้อมสปอยเลอร์หลังในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
เหนือระดับด้วยการออกแบบภายใน กว้างขวาง หรูหราพร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เติมเต็มความลงตัวด้วยการตกแต่งภายในโทนสีเงิน โครเมียม แผงหน้าปัดออกแบบใหม่ในสไตล์หรูร่วมสมัย พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน และการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น GT) และแผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ตอบสนองต่อทุกความต้องการได้อย่างลงตัวด้วยที่นั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน รูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะคนขับปรับตำแหน่งด้วยสวิชต์ไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GT) ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งเดินหน้า และถอยหลังได้โดยพนักพิงสามารถแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงช่องสัมภาระที่พื้นห้องโดยสารพร้อมฝาปิดหลังเบาะนั่งแถวที่ 3 ที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ ด้วยเครื่องเล่นดีวีดี วีซีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ IMT (Intelligent Magic Touch) - (เฉพาะรุ่น GT)
เหนือกว่าด้วย สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม แรง…เร้าใจ…ลงตัวทุกจังหวะชีวิต พร้อมระบบขับเคลื่อน SUPER SELECT 4WD (SS4) ถ่ายทอดมาจากมิตซูบิชิ ปาเจโร โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก เครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ เครื่องยนต์ 2.5 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส4D56 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ 3.2 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส 4M41 ให้พละกำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้า โดยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS-II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้จดจำรูปแบบการขับขี่ของคนขับ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม จึงช่วยในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นสำหรับระบบขับเคลื่อนนั้น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ SUPER SELECT 4WD (SS4) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยมีรูปแบบการทำงานให้เลือกถึง 4 โหมดคือ 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลัง ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม และ 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก เหนือกว่าด้วย สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม แรง…เร้าใจ…ลงตัวทุกจังหวะชีวิต พร้อมระบบขับเคลื่อน SUPER SELECT 4WD (SS4) ถ่ายทอดมาจากมิตซูบิชิ ปาเจโร โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก เครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ เครื่องยนต์ 2.5 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส4D56 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ 3.2 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส 4M41 ให้พละกำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้า โดยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS-II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้จดจำรูปแบบการขับขี่ของคนขับ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม จึงช่วยในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นสำหรับระบบขับเคลื่อนนั้น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ SUPER SELECT 4WD (SS4) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยมีรูปแบบการทำงานให้เลือกถึง 4 โหมดคือ 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลัง ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม และ 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก
ตัวถังใหม่ พร้อมระบบกันสะเทือน นุ่มนวล เกาะถนน ปลอดภัย และมั่นใจกว่ามิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังให้ใหญ่ขึ้น จากโครงสร้างแบบขั้นบันไดใหม่ เพื่อความทนทาน และเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น กับระบบรองรับแบบคอยล์สปริง ช่วงล่างหน้าอิสระแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์มพร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโครง ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพเส้นทาง และทุกความเร็ว พร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.6 เมตร ทำให้ควบคุมการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้สะดวก พร้อมการเข้าโค้งได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องสมรรถนะแบบออฟโรด รวมไปถึงกำลังขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาพถนน ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ ที่สร้างความมั่นใจในทุกเส้นทางการเดินทางมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ที่ช่วยให้เกิดการกระจายแรงดันน้ำมันเบรกอย่างเหมาะสมเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง ทำให้เบรกได้อย่างปอลดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS Airbag (เฉพาะรุ่น GT) ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ช่วยลดแรงกระแทกจากการชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมระบบผ่อนแรง (เฉพาะรุ่น GT) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแถวที่สองแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และแบบ 2 จุด 1 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแถวที่สามแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง มั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน และหลังแบบดรัมเบรก พร้อมมั่นใจ และสะดวกสบายได้ในทุกการเดินทาง ด้วยกุญแจรีโมทและระบบสัญญาณกันขโมย (เฉพาะรุ่น GT) รวมไปถึงระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรมอิมโมบิไลเซอร์ช่วยให้ปลอดภัยจากการโจรกรรมราคาขายโดนใจสำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มีราคาขายอยู่ระหว่าง 950,000 บาท ถึง 1,250,000 บาท โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น พร้อม 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, เทาดำ, บรอนซ์เงิน และบรอนซ์ทอง เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ
รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
อย่าง"ฟอร์จูนเนอร์"ใหม่ ที่ทำการไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดเป็นครั้งแรก ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน
รวมถึงใส่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยเข้าไปเพียบ พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่เป็น 5 รุ่น
ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ลิตร และเบนซิน 2.7 ลิตร เคาะราคา 1.059 – 1.419 ล้านบาท
แต่สำหรับค่ายโตโยต้าคงฟันยอดขายกันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนครั้งก่อนเพราะค่ายมิตซูบิชิได้เตรียมส่งรถพีพีวีอย่าง
ปาเจโร สปอร์ต"แทนตัวเดิมอย่างจี-แวนกอนพร้อมเผยละเอียดก่อนลงขายจริงเดือนตุลาคมปีนี้
มร.มิจิโร่ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยรายละเอียดของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เอสยูวีใหม่ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะแนะนำสู่ ตลาดเมืองไทยในเดือนตุลาคมนี้ว่า มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะความแข็งแกร่ง จากโครงสร้างแชสซีส์แบบขั้นบันไดใหม่ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD ซึ่งมีพื้นฐานมาจากหลักการทำงานของระบบ All Wheel Control ของมิตซูบิชิ ทำให้เป็นรถที่มีสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ถือเป็นรถที่มีห้องโดยสารที่เงียบ ที่สุด ในรถระดับเดียวกัน ที่มีความกว้างขวาง และทันสมัยช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบาย โดยสำหรับเมืองไทย จะมีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล มีให้เลือก 2 ขนาด ที่ให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร โดยมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 950,000 บาท ถึง 1,250,000 บาท
รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสไตล์สปอร์ตมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้รับการออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด Riding-On-Demand ด้วยรูปทรงที่สวยงามทันสมัยทำให้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เป็นรถที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการใช้งานในเมือง ในขณะที่แนวคิดตามสไตล์รถ SUV ของรถบ่งบอกได้ถึงสมรรถนะที่พร้อมสำหรับการใช้งานในทุกสภาพถนน และจากการออกแบบใหม่ ผสานกับความโดดเด่นในแบบออฟโรด รวมถึงเส้นสายของการดีไซน์ ทำให้รู้สึกได้ถึงความเร็วที่มีแฝงอยู่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมรูปทรงที่ปราดเปรียว พร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบได้อย่างลงตัว พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ต ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวดุดัน กรอบกระจกมองข้างและที่เปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ช่วยเพิ่มทัศวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และไฟท้ายดีไซน์พิเศษกลมกลืนกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว ความปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยไฟเบรกดวงที่สาม และประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่ากับราวหลังคาพร้อมสปอยเลอร์หลังในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
เหนือระดับด้วยการออกแบบภายใน กว้างขวาง หรูหราพร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เติมเต็มความลงตัวด้วยการตกแต่งภายในโทนสีเงิน โครเมียม แผงหน้าปัดออกแบบใหม่ในสไตล์หรูร่วมสมัย พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน และการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น GT) และแผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ตอบสนองต่อทุกความต้องการได้อย่างลงตัวด้วยที่นั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน รูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะคนขับปรับตำแหน่งด้วยสวิชต์ไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GT) ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งเดินหน้า และถอยหลังได้โดยพนักพิงสามารถแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงช่องสัมภาระที่พื้นห้องโดยสารพร้อมฝาปิดหลังเบาะนั่งแถวที่ 3 ที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ ด้วยเครื่องเล่นดีวีดี วีซีดี เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ IMT (Intelligent Magic Touch) - (เฉพาะรุ่น GT)
เหนือกว่าด้วย สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม แรง…เร้าใจ…ลงตัวทุกจังหวะชีวิต พร้อมระบบขับเคลื่อน SUPER SELECT 4WD (SS4) ถ่ายทอดมาจากมิตซูบิชิ ปาเจโร โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก เครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ เครื่องยนต์ 2.5 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส4D56 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ 3.2 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส 4M41 ให้พละกำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้า โดยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS-II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้จดจำรูปแบบการขับขี่ของคนขับ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม จึงช่วยในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นสำหรับระบบขับเคลื่อนนั้น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ SUPER SELECT 4WD (SS4) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยมีรูปแบบการทำงานให้เลือกถึง 4 โหมดคือ 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลัง ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม และ 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก เหนือกว่าด้วย สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม แรง…เร้าใจ…ลงตัวทุกจังหวะชีวิต พร้อมระบบขับเคลื่อน SUPER SELECT 4WD (SS4) ถ่ายทอดมาจากมิตซูบิชิ ปาเจโร โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก เครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม คือ เครื่องยนต์ 2.5 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส4D56 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ 3.2 DI-D Hyper Common Rail DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler รหัส 4M41 ให้พละกำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้า โดยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS-II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้จดจำรูปแบบการขับขี่ของคนขับ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม จึงช่วยในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นสำหรับระบบขับเคลื่อนนั้น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ SUPER SELECT 4WD (SS4) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยมีรูปแบบการทำงานให้เลือกถึง 4 โหมดคือ 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลัง ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม และ 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก
ตัวถังใหม่ พร้อมระบบกันสะเทือน นุ่มนวล เกาะถนน ปลอดภัย และมั่นใจกว่ามิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังให้ใหญ่ขึ้น จากโครงสร้างแบบขั้นบันไดใหม่ เพื่อความทนทาน และเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น กับระบบรองรับแบบคอยล์สปริง ช่วงล่างหน้าอิสระแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์มพร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโครง ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพเส้นทาง และทุกความเร็ว พร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.6 เมตร ทำให้ควบคุมการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้สะดวก พร้อมการเข้าโค้งได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องสมรรถนะแบบออฟโรด รวมไปถึงกำลังขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาพถนน ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ ที่สร้างความมั่นใจในทุกเส้นทางการเดินทางมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ที่ช่วยให้เกิดการกระจายแรงดันน้ำมันเบรกอย่างเหมาะสมเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง ทำให้เบรกได้อย่างปอลดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS Airbag (เฉพาะรุ่น GT) ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ช่วยลดแรงกระแทกจากการชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมระบบผ่อนแรง (เฉพาะรุ่น GT) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแถวที่สองแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และแบบ 2 จุด 1 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแถวที่สามแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง มั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน และหลังแบบดรัมเบรก พร้อมมั่นใจ และสะดวกสบายได้ในทุกการเดินทาง ด้วยกุญแจรีโมทและระบบสัญญาณกันขโมย (เฉพาะรุ่น GT) รวมไปถึงระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรมอิมโมบิไลเซอร์ช่วยให้ปลอดภัยจากการโจรกรรมราคาขายโดนใจสำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มีราคาขายอยู่ระหว่าง 950,000 บาท ถึง 1,250,000 บาท โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น พร้อม 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, เทาดำ, บรอนซ์เงิน และบรอนซ์ทอง เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ
รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
2.5 DI-D Hyper Common Rail Turbo Intercooler GLS A/T
2.5 DI-D Hyper Common Rail Turbo Intercooler GT A/T
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
3.2 DI-D Hyper Common Rail Turbo Intercooler GLS A/T
3.2. DI-D Hyper Common Rail Turbo Intercooler GT A/T
**สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชมและทดลองขับ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ได้ที่Siam Discovery Park
ในวันที่3-5ตุลาคม2551 หรือที่ Central World Eden zoneในวันที่4-5ตุลาคม2551 นี้
และโชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิเป็นต้นไปหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009
ในวันที่3-5ตุลาคม2551 หรือที่ Central World Eden zoneในวันที่4-5ตุลาคม2551 นี้
และโชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิเป็นต้นไปหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009
๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๑
welcome to autothailand
ขอต้อนรับสู่เว็บ Autothailand ที่นี้มีข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์และเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับรถยนต์และสาระอื่นอีกมากมายมีที่นี้ autothailand.blogspot.com มากันเยอะนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)