AUTO THAILAND's Fan Box

AUTO THAILAND on Facebook

Facebook Fanpage QR Code

qrcode

เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!

๐๒ กันยายน ๒๕๕๓

Short Story : ลูบไล สไลด์ดม ลองเล่นรถพูดได้กับ Ford Fiesta


ช่วง Motor Expo 2009 ทุกคนต่างก็ใจจดใจจ่อกับการมาโชว์ตัว
ครั้งแรกของ "ฟอร์ด เฟียสต้า 5 ประตู" ต่างคนก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นเฟียสต้า
มาแล่นบนถนนไทย(ซะที) แต่สำหรับผมกลับเฉยๆ!! ในช่วงแรกผมรู้สึกเฉยๆ
กับการมาของเฟียสต้า เพราะผมก็เคยเห็นเฟียสต้าในเว็บต่างๆ
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกอะไร เพราะไม่ได้ไป Motor Expo 2009 !!!!
จนคุณสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย
ได้ประกาศว่า"จะส่งมอบ ฟอร์ด เฟียสต้า ได้ในช่วงกลางปี 2010"  





พอมาถึงเดือนมีนาคม 2553 ผมได้มีโอกาสไปงานมอเตอร์โชว์ที่ ไบเทค บางนา
Ford ก็ได้นำเฟียสต้ามาโชว์อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้มา 2 !!!
2 นั้นหมายถึง 2 ตัวถังทั้งตัวซีดานและตัวแฮทช์แบค รุ่นสูงสุด
ดังภาพข้างล่างที่ข้าพเจ้าได้บันทึกภาพไว้




แต่เวลานั้นคงทำได้แค่"ลูบไล ภายนอก"สถานเดียว เพราะเนื่องด้วยรถที่โชว์นั้น
Import มาจากอินโดนีเซีย ก็หมายความว่ารถคันที่โชว์นั้นเป็นสเปคอินโด
ภาพนั้นผมก็เฝ้ารอว่าสักวันหนึ่งผมจะได้ไปนั่ง นอนเล่นในรถเฟียสต้าให้ได้เถอะ!!
ผ่านไป 5 เดือนก็มีความเคลื่อนไหวสำหรับเจ้าเฟียสต้ามาเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็น
การเลื่อนส่งมอบรถจากตอนแรกจะส่งมอบในช่วงกรกฎาคม แต่ถูกเลื่อนไปเป็นสิงหาคม
แล้วก็ถูกเลื่อนอีกไปเป็นเดือนกันยายนซึ่งครั้งนี้จะไม่เลื่อนอีกแล้ว!! 


ไหนจะเรื่องที่เฟียสต้าออกมาวิ่งบนถนนแบบไร้ร่องรอยในการปกปิดความลับ
แล้วไปจอดตามที่ต่างๆจนมีคนมามุงดูให้ความสนใจเยอะมาก
จนฟอร์ดเองก็รู้สึกว่าถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนี้ ลูกค้าคงรอนานไม่ไหวแน่
ฟอร์ดก็เลยจัดกิจกรรม Love Fiesta Snap it Now! ที่งานนี้
เอา ฟอร์ด เฟียสต้า สเปคไทยที่ผลิตจากโรงงาน AAT จ.ระยอง
มาให้ 3 เซเล็บคือ คุณ จอห์น วิญญู , คุณ พลอย หอวัง และ คุณ กัน กันตธาวร
ได้ขับไปตามที่ต่างๆโดยจะไปในจังหวัดต่า่งๆจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2553
จนผมก็รู้สึกว่า"อยากเห็นเฟียสต้าเต็มทนแล้ว ภายนอกมันก็ดูสวยแล้ว
ภายในจะกว่าแค่ไหนเชียว"จนผมก็ได้รับข่าวสารจาก ฟอร์ด อเมริกา มอเตอร์ส
ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดในเชียงใหม่ ซึ่งผมได้รับข่าวสารจาก facebook
ผมก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด จนก่อนงาน Love Fiesta มาจัด 1 สัปดาห์
ผมก็ไปดีลเลอร์นี้เพื่อสัมผัสเฟียสต้า พอหอมปากหอมคอ


จนวันที่ 21 สิงหาคม 2553  เป็นเวลาที่ผมจะไป ฟอร์ด อเมริกา มอเตอร์ส อีกครั้ง
เพื่อสัมผัสเฟียสต้าแบบเต็มๆ งานนี้ผมได้พกกล้องคู่ใจอย่าง Sony DSC-H1
ไปงานนี้เพื่อจะไป Snap ก็เค้าบ้าง!! ช่วงเวลาบ่ายโมงกว่า ก็แทบจะถอดใจ
เพราะสภาพอากาศกลับไม่เป็นใจเสียก่อน ฝนตกอย่างหนักจนทำเอาผม
คิดว่าคงจะไม่ได้ไปแล้วมั้ง แต่โชคยังดีที่ฝนไม่ได้ตกนาน ผมก็เลยควบฟีโน่่
ไปที่ ฟอร์ด อเมริกา มอเตอร์ส ทันที พอก้าวแรกหลังจากลงรถแล้วเข้าโชว์รูม
ก็เจอคันนี้ซะก่อน บอกได้คำเดียวว่า.....




"อยากได้โค้ดๆๆๆๆๆๆ"เป็นโมเดล ฟอร์ด เฟียสต้า เสมือนจริงมากๆ
เปิดประตูได้ครบทุกบาน แต่ฝากระโปรงหน้ารู้สึกจะเปิดยากสักนิดดนึง
โมเดลตัวนี้ประเทศจีนเป็นผู้ผลิต ซึ่งผลิตได้เนียนมาก(และก็อปได้เนียนอีกตั้งหาก!!)
ราคาคันนี้ราวอยู่ที่ 3,000 กว่าบาท(แต่คาดว่าจะอยู่แถวปลายๆ)
ใครที่อยากได้ต้องรอไปก่อน เพราะยังไม่มีใครเอารถคันนี้เข้ามาจำหน่ายเลย
หรือถ้าทนไม่ไหว บินไปเมืองจีนแล้วลองหาร้านขายรถของเล่น
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของจีน(ถ้าไปแล้ววานซื้อฝากผมด้วยนะฮ้าฟ 55+)

หลังจากแวะลงทะเบียน+เล่นโมเดล(ทำตัวเป็นเด็กไปได้ตู!!)ก็ได้เวลา
ยลโฉม ฟอร์ด เฟียสต้ากันเสียที!!!




ต้องขอบอกก่อนว่า Short Story นี้จะยาวกว่าครั้งที่แล้ว เพราะครั้งนี้
จะเจาะลึกรายละเอียดเฟียสต้า ชนิดเห็นไส้พุงแหวกทะลุไปถึงตาตุ่ม(เว่อร์ไปไหม)
เอาง่ายๆคือจะให้เห็นถึงรายละเอียดที่ยังไม่ทราบ และสิ่งที่เฟียสต้ามีเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ
 


สำหรับ ฟอร์ด เฟียสต้าที่มาโชว์ก่อนขายจริงนั้นเป็นรุ่น 1.6 S Sport 
ราคา 6.99 แสนบาททั้งตัวซีดานและแฮทช์แบค
ซึ่งเป็นสเปคไทยผลิตจากโรงงาน AAT ที่ระยอง
ถามว่าสเปคไทยกะอินโดต่างกันอย่างไร แน่นอนต่างกันที่วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน
คุณภาพนั้นแตกต่างกันอยู่นิดนึง ส่วนออฟชั่นนั้นคาดว่าต่างกันอยู่เล็กน้อย
เพราะที่อินโดนีเซียจะเปิดตัวหลังจากที่ประเทศไทยเปิดตัวไปสักประมาณ 2 สัปดาห์




สำหรับ Ford Fiesta นั้นมีความยาวตัวรถทั้งหมด 4,291 มม.ในรุ่นซีดาน
ส่วนรุ่นแฮทช์แบค 3,950 มม. ถ้าจะสับแหลกในเรื่องของความกว้าง ยาว และสูง
นั้นถือว่าฐานล้อกว้างที่สุดในรถระดับ B-Segment (ไม่ได้เชียร์นะครับ แต่มันเป็นจริง)
ความกว้างของเฟียสต้าทั้งคันมีขนาด 1,722 มม. ถ้าเทียบกับ Honda Jazz 
ที่มีความกว้างทั้งคันอยูที่ 1,695 มม. ห่างกันเพียง 27 มม. ทั้งรุ่นแฮทช์แบค
และรุ่นซีดาน แต่ถ้าความยาวนั้นความยาวของเฟียสต้าทั้งคัน
ในรุ่นซีดานอยู่ที่ 4,291 มม. ส่วนรุ่นแฮทช์แบคจะอยู่่ที่ 3,950 มม.
ซึ่งความยาวนั้นในรุ่นซีดานนั้นยังแพ้ Honda City อยู่ 
แต่! รุ่นแฮชท์แบคนั้นชนะแจ็สได้ใสๆ ซึ่งยาวกว่า 50 มม. 


การออกแบบภายนอกนั้น ฟอร์ดได้ใช้แนวคิดเคเนอติก ดีไซน์  
ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฟอร์ดจะใช้ในรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต
คริสโตเฟอร์ สเวนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบฟอร์ด 
ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าวว่า
"เฟียสต้าเป็นรถที่ไม่ว่าใครได้เห็น ก็จะจดจำได้ทันที ว่านี่คือรถรุ่นใหม่ของฟอร์ด
ขณะเดียวกัน ยังโดดเด่นมากพอ สำหรับการดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย
ด้วยการออกแบบ และพัฒนาสินค้า ให้ตรงตามความต้องการที่แตกต่างกัน
ของลูกค้าทั่วโลก เฟียสต้า จึงแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความมั่นใจ
สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง และมีบุคลิกเฉพาะตัวเช่นกัน"

เฟียสต้า
มาเพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ขนาดเล็กแบบสปอร์ต
ที่ดูหรูหราโฉบเฉี่ยวเส้นสายของเสาหน้า หรือ A-pillar ทอดยาวไป
จรดเส้นกึ่งกลางล้อหน้า ช่วยให้ระยะ Overhang ของรถดูสั้นลง 
ขณะที่กระจกหน้าต่างตรงเสาหน้า ช่วยเสริมรูปลักษณ์แบบสปอร์ต 
และให้ทัศนวิสัยที่ดีในขณะเดียวกัน ส่วนด้านข้าง และกระจกข้างของรถ 
หรือ Day Light Opening (DLO) มีลักษณะจำลองเส้นของ 'ความเร็ว' 
ช่วยเน้นความเป็นรถสไตล์สปอร์ต
ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่จบลงตรงที่ความสวยเท่านั้น แต่รูปทรงโดยรวมทั้งคันของ

เฟียสต้า ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ลู่ลมที่สุด
โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ความต้านทานเพียง 0.33 เท่านั้น
 


การออกแบบของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นเริ่มที่ กระจังหน้าประทับสัญลักษณ์ บลู โอวอล 
ของฟอร์ดที่คุ้นตา ไฟหน้าแบบฮาโลเจน มัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ได้ออกแบบให้ยาวพาด
ไปถึงด้านข้างของฝากระโปรงหน้า รุ่นแฮทช์แบคด้านท้ายมีเส้นหลังคาลาดต่ำ
นำสายตามายังสปอยเลอร์ และไฟท้ายดวงที่ 3




เส้นสายเคเนอติก ดีไซน์ใน ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นมีลักษณะคล้ายมนุษย์
คล้ายยังไง?? การออกแบบนั้นได้แรงบันดาลใจจากนักวิ่งลมกรดทอมเฒ่า!!
ทำไมถึงเขียนอย่างนั้นเพราะการออกแบบเริ่มที่ไฟหน้านั้นดีไซน์
มานั้นเปรียบเสมือนอายไลน์ลายเนอร์ของผู้หญิง
ส่วนช่องดักลมใต้กระจังหน้านั้นมีขนาดใหญ่เปรียบเสมือนปากนักวิ่งที่เหนื่อยหอบ!
ช่องดักลมใต้กระจังหน้านั้นจะมีให้เห็นในรถฟอร์ดรุ่นใหม่ๆรวมไปถึง
ฟอร์ด เรนเจอร์ รหัส T6 ที่จะเปิดตัวในช่วงปี 2554 (หรือค.ศ. 2011)
ซุ้มล้อด้านข้างนั้นเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อของนักกีฬาที่มีความดุดันในตัว
เส้นสายด้านข้างเปรียบเสมือนนักวิ่งที่กำลังจะออกจากจุดสตาร์ท
ซึ่งเส้นสายดังกล่าวนั้นจะเชื่อมกับซุ้มล้อด้านข้างยาวไปจนถึงล้อหลัง 
นี้คือที่มาของคำว่า"นักวิ่งลมกรดทอมเฒ่า"!!!




สำหรับกุญแจของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นเป็นแบบพับเก็บได้ 
พร้อมระบบ Immbilizer และสัญญาณกันขโมย ที่พิเศษคือเมื่อเราล็อกรถแล้ว
กระจกมองข้างจะพับเก็บโดยอัตโนมัติ ซึ่งกุญแจแบบนี้จะมีให้ครบทุกรุ่น
ไม่ว่าคุณจะซื้อรุ่นถูกหรือแพงสุดก็ตาม กุญแจแบบนี้จะมีให้ทุกรุ่น
นอกจากนี้ยังสามารถเปิดฝากระโปรงหลังได้ผ่านกุญแจรีโมท


ส่วนการสตาร์ทนั้นเป็นแบบบ้านๆ คือเสียบกุญแจแล้วหมุน หมุน
ชูมือขึ้นโบกไปมา ไม่ใช่ล่ะ!! ก็สตาร์ในรูปแบบ Lock Acc On Start 
เรียกกันง่ายเลยคือ 4 SS ที่แปลว่า 4 Step Start






เปิดประตูภายในห้องโดยสารด้านหน้าถือว่ากว้างพอสมควร
พอนั่งลงไปก็พบว่าเบาะนั่งนั้นถือว่าโอบกระชับ นั่งสบายดี
แต่การปรับเอียนเบาะนั้น ชวนให้ปวดกบาลสักเล็กน้อย
เพราะเบาะนั่งของเฟียสต้านั้นเวลาปรับเอียนมักจะค่อยๆไป
(การปรับจะมาในลักษณะหมุน)ซึ่งเทียบกับยี่ห้ออื่นก็ปรับได้ง่ายกว่าเฟียสต้า
แต่มีที่ปรับเพิ่ม-ลดความสูงของเบาะ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองทัศนวิสัยได้ชัดเจน





ส่วนเบาะหลังนั้นต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้ไปปรับเบาะในตำแหน่งกึ่งกลาง
แต่ถ้าปรับในตำแหน่งกึ่งกลางแล้วรู้สึกแคบไปหน่อย ส่วนคนตัวสูง
ที่คิดจะนั่งนั้น ผมสูง 171 ซม.*(*ข้อมูลเมื่อเดือนมิถุนายน 2553)
ความสูงที่เหลือนั้นอยู่ที่ 1 ฝ่ามือ  ซึ่งก็เพียงพอที่จะนั่งเจ้าเฟียสต้าได้อยู่





เปิดประตูเข้ามาภายในรถก็พบคอนโซลหน้าในโทนสีเงินตัดกับดำ
กลางคอนโซลมีจอ Multi-function Display ขนาด 3.5 นิ้ว
ที่แสดงข้อมูลต่างๆทั้งแสดงคลื่นสถานีวิทยุ แสดงแทร็คเพลง
แสดงเบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งยังสามารถคุยโทรศัพท์ได้ผ่าน Bluetooth ได้
พวงมาลัยนั้นเป็นแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่ม Multi-function 
ซึ่งเป็นปุ่มควบคุมเครื่องเสียง แต่คาดว่าจะไม่ได้หุ้มหนังนะ






มาดูที่ชุดเรืองไมล์ ชุดเรืองไมล์ของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้น
คล้ายกับฟอร์ด โฟกัส แต่ดูสฟอร์ตขึ้นนิดนึง แต่เกจ์วัดน้ำมัน
อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำมในระดับสายตาไปหน่อย อาจต้องเพิ่ม
ความระมัดระวังนิดนึงนะครับ โดยรวมถือว่าโอเคดีครับ





กลางคอนโซลนั้นแน่นอนว่าจอ Multi-function Display ขนาด 3.5 นิ้ว
ที่แสดงข้อมูลต่างๆทั้งแสดงคลื่นสถานีวิทยุ แทร็คเพลง ทั้ง CD USB  หรือ iPod
แต่จะมีปัญหาการแสดงชื่อเพลงที่เป็นภาษาไทย
ซึ่งจะอ่านเป็นภาษาต่างดาว นอกจากนี้แสดงเบอร์โทรศัพท์
รวมทั้งยังสามารถคุยโทรศัพท์ได้ผ่าน Bluetooth ได้ แต่ไฮไลท์มันอยู่ที่




Voice Control ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งจะมีแค่รุ่น 1.6 Sport เท่านั้น
วิธีสั่งการนั้นถือว่าง่ายมากกกกกกกกก(จน ก.ไก่หมดโลก)
แต่มีข้อแม้ว่าถ้าคุณมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่แข็งแรงพอ
ซึ่งถ้าหากใครได้เรียนพิเศษภาษาอังกฤษตามที่ต่างๆ 
ไม่ว่าจะ Gee English , ครูพี่แนน หรือ ครูคริสโตเฟอร์ ไรท์
หรือคุณเคยเรียนโรงเรียนนานาชาติ เช่น เซนโยเซฟ ออคฟอร์ด
สวนกุหลาบ(เกี่ยวไหมเนี้ย) ก็คงจะเข้ากับระบบนี้ได้
แต่ถ้าหากภาษาอังกฤษท่านอยู่ในขั้นโคม่า หรือเคยเรียน
โรงเรียนวัดสิ้นศรัทธาธรรม โรงเรียนไทยๆทั้งหลายแหละ
หรือคุณได้รับการฝึกฝนจากอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ
ที่ออกสำเนียงแนวลูกทุ่ง ก็คงจะเข้ากับมันยากสักนิดนึง
รู้สึกจะนอกเรื่องมาไกลแล้วนะ!!!
เอาล่ะเรามาดูการทำงานของระบบ Voice Control กัน

ระบบ Voice Control นั้น นับเป็นรถรุ่นแรกในระดับ B-Segment
ที่นำระบบนี้มาติดตั้งใน ฟอร์ด เฟียสต้า วิธีการสั่งนั้น
เพียงแค่กดปุ่มรูปคนพูด แล้วจอก็แสดงว่า"Voice Recognition Please Speak"
คุณก็ป้อนคำสั่งภาษอังกฤษซึ่งถ้าคุณจะโทรหาใครสักคน
เพียงแค่พูดว่า"Phone"ต่อด้วย"Dial Name"แล้วก็พูดต่อว่า
"Dial ตามด้วยชื่อคนที่จะโทรหา"หลังจากนั้นระบบจะโทรออกโดยอัตโนมัติ
ซึ่งระบบนี้จะทำงานผ่าน Bluetooth ของโทรศัพท์ท่าน
นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเพียงแค่พูดว่า
"Climate"ตามด้วย"Temperature"แล้วบอกอุณหภูมิที่ต้อการระบบจะเปลี่ยนให้
ส่วนวิทยุก็พูดว่า"Radio"ตามด้วย"FM"หรือ"AM"แล้วก็บอกคลื่นวิทยุที่คุณต้องการ

จริงๆแล้วความสามารถมันเยอะมากเลยขอพอแค่นี้ก่อนล่ะกันครับ




ตอนนี้มาคอมเม้นท์ในเรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่ แน่นอนว่า ฟอร์ด เฟียสต้า
ได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยว แต่!ทัศนวิสัยนั้นโดยภาพถือว่าอยูในระดับพอใช้
เริ่มจากตัวแฮชท์แบคก่อนสำหรับทัศนวิสัยในการขับขี่นั้นถือว่า
ให้มุมมองกว้างพอสมควร อาจต้องปรับเบาะขึ้นอีกนิด เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น




พอหันมาก็พบเสา A-Pillar ที่บดบังอยู่ แต่ก็มีกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ที่ปรับและพบแบบไฟฟ้าได้ นอกจากนี้กระจกมองข้างจะพับอัตโนมัติ
เมื่อเราล็อกรถด้วยรีโมทคอนโทรล นอกจากนี้จะมีเม็ดไข่ปลา
หรือที่รู้จักกันคือ Wide vision ลดมุมมองบอดได้พอสมควร




แล้วเมื่อชโงกไปฝั่งตรงข้ามก็ถึงว่าใช้ได้ แต่เวลากลับรถควรระมัดระวังสักนิดนึง
ส่วนด้านหลังนั้นเป็นมีเสา D-Pillar บดบังและมีความหนาทึบบวกกับหน้าต่า่งด้านหลัง
ที่เล็กและสูงอีกทำให้การกะระยะการถอยหลังต้องใช้กระจกมองข้าง
และความระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะครับ(ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพมานะครับ)



ส่วนตัวซีดานด้านก็เหมือนกับตัวแฮชท์แบค




ส่วนฝั่งคนขับนั้นก็เหมือนกับตัวแฮชท์แบคเหมือนกัน




ส่วนฝั่งตรงผู้โดยสารนั้นก็เหมือนกับตัวแฮชท์แบคเหมือนกัน




แต่ในช่วงด้านหลังนั้นก็ยังมีปัญหาอยู่แต่น้อยกว่าตัวแฮชท์แบค
ดังนั้นจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังนะครับ





-------------รายละเอียดงานวิศวกรและข้อมูลเบื้องต้น-------------
เครื่องยนต์ของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นเป็นขนาด 1,600 ซีซี Duratec
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันแคมชาร์ฟคู่แบบอิสระ 
Twin independent - Variable Camshaft Timing หรือ Ti-VCT 
ระบบจ่ายน้ำมันแบบ Multi-Point Eletronic Fuel injection
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,596 ซีซี  อัตราส่วนกำลังอัด 11:1
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 79.0 x 81.4
ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า(89 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูง 151 นิวตัน-เมตร ที่ 4,050 รอบต่อนาที


นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ 1,400 ซีซี Duratec
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันแบบ Multi-Point Eletronic Fuel injection
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,388 ซีซี  อัตราส่วนกำลังอัด 11:1
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 76.0 x 76.6
ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า(70 กิโลวัตต์) ที่ 5,750 รอบต่อนาที
แรงบิดสูง 126 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที
ซึ่งจะมีในรุ่น Style เท่านั้น






เครื่องยนต์ 1,600 ซีซีนั้นมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ
แบบ Power Shift 6 Speed ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ ฟอร์ด โฟกัส
เพียงแต่ได้เปลี่ยนชุดคลัชต์เป็นแบบ Dual Dry Multiple Disc Clutch
หรือชุดคลัชต์แบบแห้ง ซึ่งถ้ามองตรงคันเกียร์จะพบว่า"ไม่มีโหมดบวกลบ!"
สำหรับอัตราทดเกียร์ของ Ford Fiesta 1.6 Sport นั้นมีดังนี้
เกียร์ 1: 3.917
เกียร์ 2: 2.429
เกียร์ 3: 1.436
เกียร์ 4: 1.021
เกียร์ 5: 0.867
เกียร์ 6: 0.702
เกียร์ถอยหลัง: 3.507
อัตราเฟืองท้าย: 3.895/ 4.353

จะบอกอยู่อย่างว่าคุณเอาอัตราทดโฟกัส TDCi และ เฟียสต้ามาเทียบ
จะพบว่าอัตราทดนั้นต่างกันเลยก็ว่าได้ถึงแม้จะไม่มีโหมดบวกลบให้เล่นก็ตาม
ส่วนรุ่น 1,400 ซีซี นั้นเป็นแบบ Sequental Sport Shift 4 Speed
ซึ่งใช้ชุดคลัตช์แบบ TorqueConverter หรือชุดเกียร์้ือัตโนมัติแบบธรรมดา
ซึ่งอัตราทดมีดังนี้
เกียร์ 1: 2.816
เกียร์ 2: 1.498
เกียร์ 3: 1.000
เกียร์ 4: 0.726
เกียร์ถอยหลัง: 2.649
อัตราเฟืองท้าย:4.203
ส่วนระบบช่วงล่างนั้นด้าหน้าเป็นแบบ
อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยสปริงและเหล็กกันโคลง
ส่วนด้านหลังนั้นเป็นแบบกึ่งทอรชั่นบีม
รัศมีวงเลี้ยวของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นเซ็ตอยู่ที่ 5.1 ม.
นับว่ากินพื้นที่เยอะกว่าเพื่อร่วมชั้นอีกเลยกว่าได้
ถ้าถามว่าทำไมรัศมีวงเลี้ยวกินพื้นที่เยอะเช่นนี้
คำตอบคือฐานล้อครับ ฐานล้อของ ฟอร์ด เฟียสต้า นั้น
กว้างกว่ารถในระดับเดียวกันจึงทำให้วงเลี้ยวกว้างอยู่พอสมควร



ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นแบบป้องกันก็เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเลยก็ว่าได้
อย่างระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD และนับเป็นรถรุ่นแรก
ที่มีระบบควบคุมการทรงตัว ESP ถูกติดตั้งในรถระดับเล็ก
ซึ่งจะมีแค่รุ่น Sport และ Trend เท่านั้น พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล TCS

ส่วนแบบปกป้องนั้น ฟอร์ด เฟียสต้าได้ใช้เหล็กในการทำโครงสร้างแบบโบรอน
ซึ่งมีน้ำหนักเบาและที่สำคัญแข็งแกร่งกว่าเหล็กทั่วไปถึง 4 เท่า แต่เบากว่าถึง 15 %
เอาง่ายๆเหล็กชนิดนี้ไม่ว่าจะเจาะด้วยสวานก้ไม่เข้า จะดัดให้โค้งงอก็
กลับมาเป็นเหมือนเดิม พร้อมกันนี้ยังใช้เหล็กแบบ Ultra High Strength Steel
ซึ่งโครงสร้างเหล็กนี้ใช้ทำตัวรถกว่า 55 % นับเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้เหล็กแบบนี้ในไทย
ส่วนถุงลมนิรภัยนั้นในด้านคนขับจะมาให้ครบทุกรุ่น ส่วนถ้าเป็นแบบคู่หน้านั้น
จะมีแค่รุ่น Sport และ Trend




สรุป:รถเล็กแต่ออฟชั่นไม่เล็ก แถมราคาถูกกว่าที่คิดซะด้วย!!
ต้องเอาเพลง เหลวไหล ของ มอส ปฏิภาณ ตรงท่อนที่ร้องว่า
"มาแล้วยังดีกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา"ต้องบอกได้เลยว่า
ฟอร์ดเองก็ทำการบ้านมาหนักพอสมควรและยังมีความมั่นใจว่า
เฟียสต้าจะช่วยดันเบรนด์ของตนเองให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
บวกกับการอัดออฟชั่นที่ชาวบ้านเค้าไม่มีมาใส่ซึ่งก็ถือว่าทำงานได้ดี





ถึงแม้ว่าการมาของ ฟอร์ด เฟียสต้า ในไทยนั้นจะช้ากว่าประเทศอื่น
เพราะมีหลายปัจจัยทั้งการผลิต การส่งมอบที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก
และรวมไปถึงการดูสถานการณ์ของกระแสรถ อีโค่ คาร์ อย่าง Nissan March
ดูจากราคาแล้วถือว่าถูกกว่า มาสด้า 2 ทั้งซีดานและแฮชท์แบคอยู่
ซึ่งราคามีดังนี้
Ford Fiesta Sedan
- 1.4 สไตล์ เกียร์ธรรมดา 529,000 บาท
- 1.4 สไตล์ เกียร์อัตโนมัติ 564,000 บาท
- 1.6 เทรนด์ เกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ 644,000 บาท
- 1.6 สปอร์ต เกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ 699,000 บาท

Ford Fiesta Hatch back
- 1.4 สไตล์ เกียร์อัตโนมัติ 574,000 บาท
- 1.6 เทรนด์ เกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ 654,000 บาท
- 1.6 สปอร์ต พาวเวอร์ชิฟท์ 699,000 บาท




จากราคาแล้วหลายคนคิดว่าคงจะขายดีแน่ๆ
แต่!! อย่าคิดแบบนั้น เพราะถ้าราคาดีแต่การตลาดแย่
โอกาสแป็กสูงก็ว่าได้งานนี้จับตาดูฟอร์ดให้ดีๆว่าจะมาในแนวโน้มใด
2 กันยายน 2553 ดีเดย์ของการจำหน่าย ฟอร์ด เฟียสต้า อย่างเป็นทางการ
งานนี้รถเล็กสนุกแน่!!!!




ทิ้งท้ายด้วยโมเดลรถ ฟอร์ด เฟียสต้า สวยๆเพื่อยั่วกิเลส 555+





จบของจริง!!


Special Thank
-ฟอร์ด อเมริกัน มอเตอร์
ที่ได้นำเฟียสต้ามาโชวก่อนขายจริง

ไม่มีความคิดเห็น: