เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับอีโค่คาร์คันแรกในไทย
อย่าง Nissan March ที่เปิดตัวในรอบสื่อมวลชนเมื่อ
ช่วงเวลาเที่ยงของวันนี้(12 มีนาคม 2010)
ที่โรงงานนิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) ถนน บางนา-ตราด กม. 21
โดยมีคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี ผู้แทนจากหน่วยราชการ
สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติกว่า 200 คน รวมทั้งพนักงานบริษัทนิสสัน
ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียงกัน
วันนี้ Autothailand ก็เตรียมนำรายละเอียด
ชนิดเต็มอิ่มมาให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันครับ
(คำเตือน:ใครที่มีอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วต่ำ ต้องทำใจเพราะบทความนี้ภาพเยอะมาก)
สำหรับนิสสัน มาร์ช ใหม่นั้นเป็นรถที่อยู่ภายใต้โครงการอีโค่ คาร์
ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาล โดยมีสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ(BOI)
เป็นผู้ควบคุมมาตรฐานของรถอีโค่ คาร์ โดยมี 4 ข้อซึ่งเป็นกฎทองคือ
1.มีอัตราการใช้น้ำเชื้อเพลิงไม่เกิน 5.0 ลิตร หรือ 100 กม.
2.มาตรฐานมลพิษต้องอยู่ในระดับยูโร 4 (EURO4) และมีปริมาณ
การปล่อยก็าซ CO2 ที่ปล่อยได้ไม่เกิน 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กม.
3.สามารถปกป้องผู้โดยสารกรณีเกิดการชนจากด้านหน้าและ ด้านข้าง
ตามมาตรฐานความปลอดภัยของ Unece* 94 และ 95
(*Unece คือคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจสหภาพยูโรป)
4.ต้องมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 ซีซี
2.มาตรฐานมลพิษต้องอยู่ในระดับยูโร 4 (EURO4) และมีปริมาณ
การปล่อยก็าซ CO2 ที่ปล่อยได้ไม่เกิน 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กม.
3.สามารถปกป้องผู้โดยสารกรณีเกิดการชนจากด้านหน้าและ ด้านข้าง
ตามมาตรฐานความปลอดภัยของ Unece* 94 และ 95
(*Unece คือคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจสหภาพยูโรป)
4.ต้องมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 ซีซี
สำหรับเบนซิน และ 1,400 ซีซี สำหรับดีเซล
การที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco car)
ต้องเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและปล่อยก๊าซCO2ในปริมาณน้อย
นอกจากนี้ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลของผู้โดยสาร
ทั้งกันกระแทกด้านหน้าและด้านข้างตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของ สหภาพยุโรป (UNECE Regulation 94 และ 95)
โดยโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลเป็น
โครงการของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม
ซึ่งเคยประสบผลสำเร็จจากการสร้างให้ประเทศไทย
เป็นฐานการผลิตรถยนต์กระบะมาแล้ว
“จากการที่ปริมาณรถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
และการให้ความสำคัญในเรื่องมลพิษที่มีระดับสูงขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
บริษัท ฯ จึงได้เปิดตัวรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซ CO2 ในระดับต่ำ
และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง”
มร.โตชิยูกิ ชิกะ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บ. นิสสัน มอเตอร์ จก.
กล่าว นอกจากนี้ มร. ชิกะ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“สิ่งที่สำคัญอีกประการจากการผลิตและจำหน่ายรถยนต์นิสสัน มาร์ช
ซึ่งเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งการส่งออกรถยนต์รุ่นดังกล่าว
ไปยังประเทศอื่นๆในทวีปเอเชียและโอเชียเนีย จะช่วยสร้างงานและก่อให้เกิด
การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างก้าวหน้าในประเทศ นั้นๆ”
กำหนดเปิดตัวอย่างเป็น ทางการต่อสาธารณชนในวันที่ 26 มีนาคม
ในงาน Bangkok International Motor Show 2010 รถยนต์นิสสัน มาร์ช
จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่จำหน่ายตามโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน
มาตรฐานสากล ของประเทศไทยซึ่งริเริ่มขึ้นเพื่อส่งเสริม
การพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายนอก
นิสสัน มาร์ช ใหม่นี้มีขนาดยาวขึ้นและความสูงลดลงเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่ฐานล้อซึ่งยาวขึ้นนั้น ทำให้นิสสัน มาร์ชมีพื้นที่ภายในกว้างขวางขึ้น
นอกจากนี้ ร่องรูปทรงบูมเมอแรงบนหลังคารถช่วยลดการสั่นสะเทือน
ลดเสียงภายในห้องโดยสาร ยามาเนกล่าว ด้วยเจตนาในการออกแบบที่
จะสร้างความรู้สึกเดียวกันทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก
ภายในห้องโดยสาร นิสสันจึงได้ใช้แนวคิด ‘Connected Cocoon’
การออกแบบแผงหน้าปัดที่ยึดตามแนวคิดของ ‘ทวิน บับเบิ้ล’
ที่หมายถึงที่ตั้งเข็มอุปกรณ์รูปกลมและตู้เก็บของ
รูปร่างคล้ายกันทางด้านผู้โดยสาร
สำหรับภายนอกของนิสสัน มาร์ช ใหม่ นั้น
ได้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน V-Platform ซึ่งเป็นพื้นฐานใหม่ของนิสสัน
โดยตัวถังนั้น
ยาว 3,780 มม. กว้าง 1,665 มม. สูง 1,515 มม.
ฐานล้อยาว 2,450 มม. ระยะห่างขอล้อคู่หน้า 1,475 มม.
ส่วนล้อหลังนั้น 1,470 มม.
สำหรับ นิสสัน มาร์ช นั้นจัดอยู่ในกลุ่ม อีโค่ คาร์ สำหรับในเมืองไทย
แต่ถ้าในต่างประเทศได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม B-segment หรือรถยนต์ขนาดเล็ก
ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ Toyota Yaris(Vitz) ,Honda Jazz(Fit),Mazda 2 (Demio)
และนับว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ขับนิสสัน มาร์ช ก่อนใครในโลก
ภายใน
สำหรับภายในห้องโดยสารนั้นมีการออกแบบให้กว้างขวางสบาย
คนตัวสูงก็สามารถนั่งได้ โดยภายในห้องโดยสารนั้น
มีการตกแต่งด้วยสีเงิน แต่โทนสีภายในห้องโดยสารนั้นเป็นโทนสีดำดังในภาพ
สำหรับมาตรวัดของนิสสัน มาร์ชนั้นเป็นแบบอนาลอก
พร้อมจอ MD (Multi-Display)ที่มี
-Trip Computer แสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงขณะขับขี่
-Welcome & Anniversary ฟังชั่นเตือนวันพิเศษเช่นวันเกิด,วันปีใหม่
-Alert / Warning หน้าจอแสดงเตือนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่
-Maintenance หน้าจอแสดงเตือนระยะเวลาการตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่
-Idling Stop หน้าจอแสดงปริมาณน้ำมันที่ระบบประหยัดได้
-ITS หน้าจอแสดงผลแจ้งเตือนระยะทางวิ่งได้จากน้ำมันที่มีเหลืออยู่
ชุดเครื่องเสียงของนิสสัน มาร์ชนั้นเป็นแบบ วิทยุ CD MP3 แบบ 1 แผ่น
พร้อมช่อง AUX IN สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องเล่น MP3 , iPod และอื่นๆ
ส่วนระบบปรับอากาศนั้นใน รุ่น 1.2 VL และ 1.2 V เป็นแบบอัตโนมัติ
ส่วนรุ่น 1.2 EL , 1.2 E และ 1.2 S เป็นแบบธรรมดามือหมุนแน่นอนว่าเทคโนโลยีแบบอัจฉริยะที่มี อย่าง Tiida และ Teana
ถ้าไม่ใส่ ใน March ก็คงจะไม่โดนใจผู้บริโภคและไม่มีสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นนิสสันจึงใส่ระบบปุมสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start ที่มาพร้อมกับ
ระบบกุญแจอัจฉริยะ Intellgence Key ที่เปิดประตูได้โดยไม่ต้องไขกุญแจ
เครื่องยนต์
สำหรับเครื่องยนต์ที่นิสสัน มาร์ช ใช้นั้นมีรหัส HR12DE
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ในตระกูล HR เป็นบล็อกเดียวกับ Nissan Tiida
รายละเอียดเครื่องยนต์มีดังนี้ เครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี
รหัส HR12DE 3 สูบ 12 วาลว์ พร้อมระบบวาลว์แปรผัน CVTC
ความจุกระบอกสูบ 1,198 ซีซี
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์
ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า (58 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร(10.8 กก.-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/ นาที
พร้อมระบบ Idling Stop ระบบเครื่องยนต์ดับโดยอัตโนมัีตืเมื่อรถหยุดนิ่ง
แล้วกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อเหยียบคันเร่ง
จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT เทคโนโลยีเดียวกับ
Teana และ X-trail ซึ่งเป็นรายแรกของโลก
ที่ใช้ชุดเกียร์แบบ CVT ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
โครงสร้างที่นิสสัน มาร์ชใช้นั้นเป็นโครงสร้างแบบ V-Platform
ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา แต่ความแข็งแกร่ง ทนทาน ยังคงมีเหมือนเดิม
ระบบช่วงล่าง
ระบบช่วงล่างของนิสสัน มาร์ช ใหม่นั้น
ด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แม็คฟอร์สันสตรัท
ส่วนด้านหลังเป็นแบบ ทอร์ขั่นบีม
รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.5 เมตร
ความปลอดภัย
สำหรับความปลอดภัยแบบป้องกันนั้น
มีระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรกด้วย BA
ส่วนแบบปกป้องนั้น
โครงสร้างตัวรถนิสสัน มาร์ช นั้นเป็นแบบ Zone Body Concept
ถุงลมนิรภัยแบบ SRS คู่หน้าสำหรับรุ่น 1.2 VL และ 1.2 V
ส่วนรุ่น 1.2 EL , 1.2 E และ 1.2 S มีแค่ด้านคนขับ
สำหรับ นิสสัน มาร์ช ใหม่นั้นมีให้เลือกถึง 6 สีคือ
-สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์
-สีดำ แบล็ก สตาร์
-สีม่วง คริสตัล ไลแลค
-สีเขียวสปริง กรีน
-สีส้ม ซันไลท์ ออเร้นท์
-สีขาว ไวท์ เพิร์ล
ส่วนราคาของ Nissan March มีดังต่อไปนี้
-1.2S MT ราคา 375,000 บาท
-1.2E MT ราคา 425,000 บาท
-1.2E CVT ราคา 459,000 บาท
-1.2V CVT ราคา 507,000 บาท
-1.2EL CVT ราคา 489,000 บาท
-1.2E CVT ราคา 459,000 บาท
-1.2V CVT ราคา 507,000 บาท
-1.2EL CVT ราคา 489,000 บาท
-1.2EL CVT ราคา 537,000 บาท
ใครสนใจสามารถไปชม นิสสัน มาร์ช ใหม่ ตัวจริงได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมนี้เป็นต้นไปหรือสามารถไปชมได้ที่
งาน Bangkok International Motor Show 2010
วันที่ 26 มี.ค.- 6 เม.ย.2010 ที่ไบเทค บางนา
TVC Nissan March ชีวิตง่ายขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น