AUTO THAILAND's Fan Box

AUTO THAILAND on Facebook

Facebook Fanpage QR Code

qrcode

เจอกันที่ใหม่ จัดเต็มกว่าเดิม!

๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒

IT:คนยุโรปที่Windowsเลือกใช้เว็บBrowerswได้

ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในระบบปฎิบัติการตระกูลวินโดวส์ของตนเอง เปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกโปรแกรมเวบบราวเซอร์ได้ตามใจชอบ

หลังจากที่ประกาศให้ระบบปฎิบัติการณ์ตัวใหม่วินโดวส์ 7 ที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรปจะไม่กำหนดให้โปรแกรมอินเตอร์เนต

เอกซ์โพลเลอร์ 8 (IE 8) เป็นบราวเซอร์มาตราฐานของผู้ใช้อีกต่อไป เมือสัปดาห์ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ก็ได้ออกมาประกาศให้ผู้ใช้ที่

ระบบปฎิบัติการณ์วินโดวส์ทั้ง XP และ วิสต้าในทวีปยุโรปสามารถที่จะเลือกโปรแกรมเวบบราวเซอร์ได้ด้วยตนเอง

โดยแผนการในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมวินโดวส์อัพเดทที่มีความสำคัญอยู่ในระดับสูงซึ่งจะมีเมนูเปิดขึ้นมาให้ผู้ใช้เลือก

โปรแกรมเวบบราวเซอร์ที่ต้องการ ประกอบไปด้วยโปรแกรม ไฟร์ฟ๊อกซ์ โอเปร่า ซาฟารีและกูเกิ้ลโครม์ และมีการเปิดเผยถึงที่มาของการ

บริการในครั้งนี้ว่าเพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องเรื่องการกีดกันทางสินค้าจากทางสหภาพยุโรป

IT:Apple ส่งแอปพลิเคชั่น MobileMe iDisk สำหรับ iPhone และ iPod touch

นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะมีเรื่องไอทีเข้ามา เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาในบล็อกผมได้รู้เท่าทันเทคโนโลยี

Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้ iPhone และ iPod touch สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นล่าสุด MobileMe iDisk ได้ฟรี

ผ่านทาง App Store ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูไฟล์ที่มีการบันทึกออนไลน์ไว้ ผ่านบริการ MobileMe ได้

โดยแอปพลิเคชั่นฟรีจาก Apple ล่าสุดนี้ มีชื่อเรียกว่า MobileMe iDisk ซึ่งถูกพัฒนาออกมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้

งาน ในการบันทึก, เรียกดู หรือแชร์ไฟล์ต่างๆผ่านทางออนไลน์ ซึ่งจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลมากพอที่จะสามารถบันทึกไฟล์ใหญ่ๆได้

อย่างไม่มีปัญหา โดยการเพิ่มไฟล์ที่ผู้ใช้ต้องการบันทึกไปยัง iDisk ของผู้ใช้ ซึ่งไฟล์ต่างๆที่ทำการอัพโหลดไปแล้ว

ยังสามารถดาวน์โหลดกลับมาได้โดยการใช้เวบบราวน์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ หรือแอปพลิเคชั่น iDisk บน iPhone และ iPod touch

จึงทำให้สามารถแชร์ไฟล์ไปยังเพื่อนหรือผู้ใช้รายอื่นๆได้ โดยแอปพลิเคชั่น iDisk นี้

ยังสามารถรองรับไฟล์ได้หลายรูปแบบอาทิ ไฟล์ข้อความที่สร้างจาก Microsoft Office และ iWork ’09 หรือ

ไฟล์ประเภท presentation และไฟล์ในรูปแบบ PDF เป็นต้น

ซึ่งในขั้นแรกนี้จะรองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และญี่ปุ่น

๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒

โตโยต้าปล่อยคัมรี่ไฮบริดและคัมรี่ไมเนอร์เชน พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคไฮบริด


Camry 3.5Q





Camry Hybrid











Camry 2.0E-2.4G




Camry 3.5 Q




Camry Hybrid



Camry 2.0E-2.4G

เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร พร้อม มอเตอร์ไฟฟ้า

เครื่องยนต์3.5ลิตร

เครื่องยนต์2.4ลิตรและ2.0ลิตร
อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Shift Sequential
อัตโนมัติ แบบ Hybrid ECVT

อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Shift Sequential และ อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT


โตโยต้าปล่อยคัมรี่ไฮบริดและคัมรี่ไมเนอร์เชน พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคไฮบริด

วันนี้( 27 กรกฎาคม 2552) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

ได้เปิดตัวโตโยต้าคัมรี่ไฮบริดและคัมรี่ไมเนอร์เชน ณห้องบอลรูม โรงแรมเอราวัณ

ถ้าเรายังจำกันได้ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โตโยต้าได้แถลงข่าวเกี่ยวกับความพร้อมของการผลิต

รถยนต์โตโยต้าคัมรี่ไฮบริดพร้อมเผยว่าจะจำหน่ายในราคาไม่เกิน100,000บาท(บวกกับรุ่นไมเนอร์เชน)

ซึ่งในงานแถลงข่าวของโตโยต้านั้นแสดงให้เห็นว่าความพร้อมของโตโยต้าที่จะผลิตรถไฮบริดในไทย

และเป็นการก้าวสู่ยุคไฮบริด พร้อมกันนี้โตโยต้าก็ได้ปล่อยTeaserมาถึง4ตัว โดยทั้ง4ตัวมีความยาวแค่15วินาที

เพื่อให้คนที่ดูโทรทัศน์ได้รู้เรื่องระบบHSD(Hybrid Synergy Drive)ให้มากขึ้น

ยนตรกรรมแห่งเกียรติประวัติ


คัมรี ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2525 ซึ่งชื่อ คัมรี นั้นไม่ได้กำเนิด

มาจากภาษาอังกฤษ แต่มาจากภาษาญี่ปุ่นในคำว่า “คัมมูริ” ซึ่งแปลว่า “มงกุฎ” ซึ่ง คัมรี ได้สะท้อนความหมายและ

ภาพลักษณ์ของ “มงกุฎ” ได้อย่างชัดเจน โดยเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่มีดีไซน์อันหรูหรา ภูมิฐาน

ห้องโดยสาร โอ่อ่า กว้างขวาง พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าใน

สหรัฐอเมริกา ด้วยการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลางในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 11 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.

2540 จนถึงปัจจุบัน คัมรีได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ครั้งแรกในปลายปี พ.ศ.2536 ด้วยการ

เป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายตลอดมา ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า

100,000 คัน และเริ่มประกอบคัมรีในประเทศ ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 และได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยมากขึ้น

ตามลำดับ จนรุ่นปัจจุบันเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมากกว่า 50%

คัมรีไฮบริด ได้ตั้งเป้ายอดขายตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนธันวาคมอยู่ที่ ประมาณ 4,000 คัน”


แล้วส่งมอบรถยนต์ไฮบริดคันแรกจะเริ่มต้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยเราเตรียมความพร้อมสำหรับการบริการหลัง

การขาย ด้วยการอบรมผู้ฝึกสอนและช่างเทคนิคที่มีความรู้และความชำนาญเรื่องเทคโนโลยี ไฮบริดโดยเฉพาะ

ซึ่งจะประจำอยู่ในศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่ง ที่สำคัญเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เราจึงรับประกัน

คุณภาพของรถยนต์ คัมรี ไฮบริด เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร รวมถึงการรับประกันพิเศษ

ในส่วนของ แบตเตอรี่ ไฮบริด เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง


คัมรี ไฮบริด : ยนตรกรรมอัจฉริยะ

อัจฉริยะแห่งการผสานพลัง ....ด้วย ระบบไฮบริด THSII
ตอบสนองการขับขี่ เร้าใจ


ตอบสนองทุกการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle รหัส 2AZ-FXE ขนาด 2.4 ลิตร กำลัง

สูงสุด 110 กิโลวัตต์ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร ผสานการทำงานอย่างอัจฉริยะ กับชุด

มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร โดยพลังจากทั้งสองระบบที่สามารถ

ให้แรงม้าสูงสุดได้ 140 กิโลวัตต์ ที่ 6500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ 187 นิวตันเมตรที่ 4400

รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 270 นิวตันเมตรที่ 0-1500 รอบต่อนาที

ชุดมอเตอร์ ประกอบด้วย

-มอเตอร์ เจนเนเรเตอร์ MG 1 สร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด และส่งกระแสไฟฟ้าให้กับ

-มอเตอร์ขับเคลื่อน MG2 และยังทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตารท์เครื่องยนต์

มอเตอร์ ขับเคลื่อน MG 2 ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากมอเตอร์ เจนเนเรเตอร์ MG 1 และชาร์จไฟจากการชะลอความเร็ว หรือ การเบรก เก็บไว้ใน แบตเตอรีไฮบริด ลดการสูญเปล่าของพลังงาน
- ออกตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สูงถึง 270 นิวตันเมตรตั้งแต่เริ่มออกตัว
- ในขณะขับขี่ การทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งผลให้รถมีอัตราเร่งแซงฉับไว
-ระบบ ดต่อกำลัง Power Split Device ทำ หน้าที่ตัดต่อและผสมผสานกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อส่งต่อไปที่เฟืองท้ายเพื่อการขับเคลื่อน อีกส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริด
-ชุด อินเวอร์เตอร์ แปลงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริดเป็นกระแสสลับความดันสูง 650 โวลต์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน และแปลงกระแสไฟฟ้าลงเพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากมอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ เก็บไว้ในแบตเตอรีไฮบริดเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนต่อไป
-แบตเตอรีไฮบริด ชนิด nickel-metal hydride แหล่งเก็บประจุไฟฟ้าสำหรับพลังงานขับเคลื่อน ออกแบบใช้งานยาวนานเทียบเท่าอายุรถยนต์ ปลอดภัยสูงสุดด้วยชุดควบคุมด้วย ECU ตัดกระแสไฟทันที เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ หุ้มฉนวนไฟฟ้าป้องกันไฟช๊อต พร้อม service plug ตัดกระแสไฟ ที่เก็บแบตเตอรีไฮบริดอยู่ในตำแหน่งปลอดภัยต่อการชนและไม่เปลืองพื้นที่เก็บ สัมภาระด้านหลังรถ พร้อมรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

อัจฉริยะ .....สำหรับประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด...

- ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา
-ออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
-มีมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยการขับเคลื่อน และเครื่องยนต์หยุดทำงานบางขณะ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง
-ขณะขับขี่แบบปกติเครื่องยนต์ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลง
ใน ขณะชะลอความเร็ว หรือเบรก ระบบเบรกไฟฟ้า จะมีส่วนช่วยชะลอความเร็วพร้อมชาร์จไฟกลับเข้ามาเก็บในแบตเตอรีไฮบริด
เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ลดการสูญเปล่าของพลังงาน

-คอมเพรสเซอร์ แอร์แบบไฟฟ้า และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ไม่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น
-ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานที่ 0.29 ตามหลักอากาศพลศาสตร์ของยานยนต์ชั้นสูง ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์
-ติด ตั้งแผ่นปิดเครื่องยนต์ด้านล่าง เพื่อความไหลลื่นของอากาศใต้ตัวรถ พร้อมแผ่นปิดด้านล่าง ด้านหลัง และแผ่นปิดพร้อมครีบบริเวณจุดต่ำสุดของถังน้ำมัน


อัจฉริยะ ..... เพื่อความเงียบ...สบาย ตลอดการเดินทาง

-ระบบเครื่องปรับอากาศทำงานด้วยไฟฟ้า พร้อมพลาสม่า คลัสเตอร์ ให้อากาศภายในรถสะอาดสดชื่น
-ขณะหยุดรถและออกตัว ระบบเครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน (ขึ้นอยู่กับปริมาณไฟในแบตเตอรีไฮบริด) ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวน
-ห้อง โดยสารที่เงียบ ด้วยระบบซับและป้องกันเสียง เพื่อความเงียบเฉกเช่นยานยนต์ระดับหรูตลอดจนกระจกบานหน้าออกแบบพิเศษ ป้องกันเสียงสะท้อนจากเครื่องยนต์ (Acoustic Glass)


อัจฉริยะ ... ระบบเสริมความปลอดภัย

- ระบบ จัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) ที่ จะควบคุมการทำงานของระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆในรถยนต์ที่เคยทำงานแยกกัน ให้มาทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) เพื่อการทรงตัวที่ดีของรถและสมรรถนะที่ดีทุกๆด้านในการขับขี่ทั้งการขับ การเลี้ยว ตลอดจนการหยุดรถ
- ติดตั้งระบบเบรก ECB II หรือ Electronic Brake Control เพื่อ ประสิทธิภาพสูงสุดในการเบรก และจะมีการชาร์จไฟกลับ เข้ามาเก็บไว้ที่แบตเตอรีไฮบริด นำพลังงานที่สูญเปล่ากลับมาใช้ประโยชน์อีกทางหนึ่ง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า และด้านข้าง
- ภายนอก...เอกลักษณ์โดดเด่น ออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะรุ่นไฮบริด
- ล้ำสมัยสะท้อนความเป็นไฮบริดด้วย กระจังหน้า กันชน และโคมไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ สะท้อนเอกลักษณ์
- กันชนหน้าแบบพิเศษ พร้อมไฟตัดหมอกกรอบวงแหวนโครเมี่ยม
- โดดเด่นกับสัญลักษณ์ ไฮบริด ที่ประตูคู่หน้าและฝากระโปรงหลัง
- โคม ไฟหน้าดีไซด์พิเศษ ดูสง่างามแบบ 3 มิติ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ HID สีพิเศษ Blue-tinted Extension ปรับมุมลำแสงอัตโนมัติ ตามมุมเลี้ยวของรถ (AFS)
- โคมไฟหลังส่องสว่างด้วย หลอดไฟแบบ แอลอีดี สีพิเศษ Blue-tinted Extension ให้แสงสว่างชัดเจน ประหยัดพลังงานมากกว่า
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ 10 ก้าน พร้อมยางขนาด 215/60 R16
- ภายนอกสดใสกับ สีฟ้าใหม่ Light Blue Mica Metallic พิเศษเฉพาะ คัมรี ไฮบริด เท่านั้น
- ภายใน...ล้ำสมัย เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายพร้อมสรรพ เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อย่างรื่นรมย์
- ภายในสีเบจ ให้ความรู้สึกอ่อนโยน หรูหรา กว้างขวาง โอ่อ่า ในแบบบุคคลชั้นนำ
- มาตร วัดเรืองแสงออพตริตรอน พร้อมเข็มวัดระดับการใช้น้ำมัน และหน้าจอแสดงการทำงานของระบบไฮบริด เพื่อให้ผู้ขับ ได้ทราบถึงสถานะของระบบขณะขับขี่
- พื้นที่ เก็บสัมภาระขนาด ใหญ่ ปริมาตรความจุเทียบเท่ารถยนต์คัมรีเครื่องยนต์เบนซิน...ช่องบรรจุแบตเตอรี ไฮบริดมีปริมาตรเพียง 0.389 ลูกบาศ์กเมตร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ใบ


อัจฉริยะ ... เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

จากการผสาน การทำงานอย่างอัจฉริยะ คัมรี ไฮบริด ไม่เพียงแค่ผ่านค่ากำหนดมาตรฐาน ยูโร4 ที่ประเทศไทยจะบังคับใช้สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในปี พ.ศ. 2555 แต่ยังได้ได้พัฒนาเพื่อผ่านมาตรฐาน AT-PZEV แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในการกำหนดปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกสู่อากาศ
เลือกเป็นเจ้าของความเหนือระดับ...คัมรี ไฮบริด 3 รุ่น


HV AVN DVD Navigator ราคา1.779ล้านบาท

HV AVX DVDราคา1.659ล้านบาท

HV 6 CDราคา1.599ล้านบาท


พร้อมคัมรี รุ่นปรับปรุงโฉม อีก 4 รุ่น

3.5Qราคา 2.909ล้านบาท

2.4G ราคา1.449ล้านบาท

2.0G ราคา1.269ล้านบาท

2.0E ราคา1.214ล้านบาท
สัมผัสความเหนือระดับ...ของผู้ครอบครองด้วย 7 สี
เอกลักษณ์เฉพาะไฮบริด
Light Blue Mica Metallic (คัมรีไฮบริด)

White Pearl CS.

Silver Metallic

Medium Silver Metallic

Black Mica

Beige Metallic

Gray Metallic

นำคุณสู่ยุคไฮบริด

สัมผัสความเหนือระดับของ “Camry Hybrid” ในวันที่ 7 – 9 สิงหาคมนี้

ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 310 แห่งทั่วประเทศ

“I am HybridCamry Hybrid ..Drive Intelligent Drive Hybrid”

๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒

“อีซูซุ” พิสูจน์ความประหยัดกับน้ำมันถังเดียวขับถึงสิงค์โปร์

“อีซูซุ” พิสูจน์ความประหยัดกับน้ำมันถังเดียวขับถึงสิงค์โปร์

เมื่อรถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล ยอดรถประหยัดน้ำมันสายพันธุ์แท้ มาตรฐานโรงงาน 8 คัน และผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริง 8 คน

ผนึกกำลังขับรถทางไกลใน
“คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว...เที่ยวไกลถึงสิงคโปร์”
ด้วยความเร็วเฉลี่ย 70-90 กม. เปิดแอร์ตลอดเส้นทาง ในสภาพเส้นทางจราจรจริง
ใช้เวลา 2 วันถึงที่หมายครบทุกคัน โดยที่น้ำมัน 1 ถังยังเหลือ และไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดไม่ปรากฏเลยสักคันเดียว

คิดเป็นสถิติประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 21.47 กม./ลิตร บนเส้นทางที่ไกลถึง 1,250 กม. จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย ไปยังประเทศมาเลเซีย สู่ประเทศสิงคโปร์

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
จัดกิจกรรมคาราวานประหยัดน้ำมันตามแบบฉบับของอีซูซุอีกครั้ง แต่ท้าทายยิ่งขึ้น ใน “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว...เที่ยวไกลถึงสิงคโปร์” โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในรูปแบบคาราวานท่องเที่ยวทาง รถยนต์ผ่าน 3 ประเทศ คือ จากประเทศไทย (สุราษฎร์ธานี) ข้ามประเทศมาเลเซีย สู่ประเทศสิงคโปร์
ระยะทางยาวถึง 1,250 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง บนสภาพเส้นทางและการจราจรจริง
โดยระยะทางส่วนใหญ่อยู่ในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งมีกฎการจราจรที่เข้มงวด
ด้วยความเร็วเฉลี่ย 70-90 กม./ชั่วโมง และเปิดแอร์ตลอดเส้นทาง
ภายใต้การดูแลอย่างเคร่งครัดของคณะกรรมการจากคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ
และสื่อมวลชนที่ร่วมเป็นสักขีพยานตลอดการเดินทาง


มร.ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ กล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้นับเป็นความท้าทายครั้งใหม่
ของอีซูซุ โดยรถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล มาตรฐานโรงงาน 8 รุ่น ได้แก่ รถอีซูซุดีแมคซ์ แพลททินั่ม ทุกเครื่องยนต์
ทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโตเมติก รวม 7 คัน และรถอีซูซุ มิว-เซเว่น แพลททินั่ม เกียร์ออโตเมเติก อีก 1 คัน
ขับโดยผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริงจากหลากหลายอาชีพจำนวน 8 คน บนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย

อีซูซุเชื่อมั่นว่า การผสานทักษะการขับรถประหยัดน้ำมันที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเข้ากับสมรรถนะความประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์ซูเปอร์คอมมอนเรลของอีซูซุ ยิ่งจะทำให้ความประหยัดน้ำมันเปี่ยมประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความสำเร็จจากการเดินทางไปสิงคโปร์ด้วยน้ำมันถังเดียวครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำ
ให้ผู้ใช้รถทั่วไปเกิดความเชื่อมั่นว่า การขับรถแบบประหยัดน้ำมันนั้นสามารถทำได้
ขอเพียงแค่เรียนรู้เทคนิคที่ถูกต้องและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เท่านั้น”






การเดินทางแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย–เมืองอิโปห์ ประเทศมาเลเซีย
ระยะทาง 676.8 กม. และช่วงที่ 2 เมืองอิโปห์ – ประเทศสิงคโปร์ ระยะทาง 573.2 กม.
ระว่างทางมีการกำหนดจุดแวะพักเป็นระยะเพื่อรับประทานอาหารทุกมื้อ เข้าห้องน้ำ และผ่อนคลายอิริยาบถ
รวมทั้งพบเจออุปสรรคต่างๆ เช่นเดียวกับการเดินทางทั่วไป อาทิ การต้องผจญกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นในบางช่วง
โดยเฉพาะบริเวณด่านสะเดาที่มีนักท่อง เที่ยวล้นหลามเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง
ฝนตกกระหน่ำในมาเลเซีย และอุบัติเหตุบนเส้นทางเนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่ที่เป็นเป็นภูเขาในประเทศมาเลเซีย
ลื่นมากเนื่องจากฝนตก ทำให้นักขับต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อผ่านด่าน TUAS
เข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนเข้าจุดสิ้นสุด ณ ESPLANADE PARK บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ในช่วงบ่ายต้น ๆ
แบบครบทุกคัน โดยที่น้ำมัน 1 ถังยังเหลือ และไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดไม่ปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่คันเดียว
รวมน้ำมันที่ใช้ในการเดินทาง 1,250 กม.

อยู่ระหว่าง 51 – 62 ลิตร หรือคิดเป็นสถิติประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 21.47 กม./ลิตร
โดยมี มร.เอส. วากายาบาชิ และคุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
รวมทั้งผู้บริหารของบริษัท อีซูซุมอเตอร์เอเชีย และบริษัท ไทรแองเกิลออโต้
ผู้จัดจำหน่ายรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์” ในสิงคโปร์ ร่วมแสดงความยินดี


คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “อีซูซุเชื่อมั่นว่าความประหยัดน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถ เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งทนทาน และความสะดวกสบายในการขับขี่
ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในรถ อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล ทุกรุ่น เราอยากจะให้ผู้ใช้รถในประเทศไทยนำ
เทคนิคการขับประหยัดน้ำมันมาปรับใช้ในการ ขับรถในชีวิตประจำวันของตนเอง
เพื่อช่วยกันรักษาทรัพยากรของโลกและช่วยประเทศ
ชาติในการประหยัดเงินในการนำเข้าน้ำมัน”


หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เหล่านักขับพร้อมครอบครัวยังได้ท่องเที่ยวชมเมือง อาทิ รูปปั้นเมอร์ไลอ้อนสัญลักษณ์สำคัญของประเทศสิงคโปร์ ณ ปากแม่น้ำสิงคโปร์ นมัสการพระเขี้ยวแก้ว ณ วัดจีน (Buddha’s Tooth Relics Temple)
ในย่านไชน่าทาวน์ อธิษฐานขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวสิงคโปร์
เที่ยวชมสวนนกจูล่ง และปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งที่ถนนออร์ชาร์ด แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชี
ย ทั้งนี้ในช่วงเดินทางกลับยังได้เที่ยวชมเมืองปุตราจายา เมืองใหม่ของประเทศมาเลเซีย
ที่เป็นศูนย์รวมของหน่วยงานราชการที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย


ประสบการณ์ของสมาชิกคาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน
อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว...เที่ยวไกลถึงสิงคโปร์
เส้นทางไทย (สุราษฎร์ธานี) – มาเลเซีย – สิงคโปร์ 1,250 กม.

รถหมายเลข 01: รถอีซูซุ มิว-เซเว่น พรีโม 3.0 VGS Turbo - เกียร์ออโตเมติก
ผู้ขับ : คุณอนุชา เอี่ยมไพจิตต์
อาชีพ : วิศวกรไฟฟ้า บริษัทเอกชน
อัตราการใช้น้ำมัน 62.439 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.02 กม./ลิตร

“ผม เชื่อมั่นในรถอีซูซุและวิธีการขับของตัวเอง แต่ครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้รถเป็นส่วนสำคัญจริงๆ
ปกติผมขับเกียร์ธรรมดาไม่ถนัดเกียร์ออโต้เท่าไหร่ พอต้องมาขับเกียร์ออโต้ แถมยังเป็นรถรุ่นใหญ่และน้ำหนักเยอะที่สุดด้วย
เลยทำให้วิตกนิดหน่อย แต่พอขับไปได้สัก 10 กม.ก็จับได้แล้วว่าต้องขับอย่างไร
จบวันแรกที่อิโปห์เห็นเกจ์น้ำมันแล้วมั่นใจครับว่าต้องผ่านไปถึงสิงคโปร์ได้ แน่นอน
เทคนิคก็ไม่มีอะไรมากเพราะผมนำวิธีขับในชีวิตจริงมาใช้ขับ คือต้องศึกษาเส้นทางให้ดี
และใช้ความเร็วให้เหมาะสม อุปสรรคของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยมากกว่า”

รถหมายเลข 02: รถอีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ LS 3.0 VGS Turbo - เกียร์ธรรมดา
ผู้ขับ : คุณสตรอง วงศ์บางชวด
อาชีพ : เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร
อัตราการใช้น้ำมัน 62.977 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 19.85 กม./ลิตร

“รถ ที่ผมขับเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 ประตู เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการลุย ซึ่งความแรงมีอยู่แล้ว
แตะคันเร่งนิดเดียวก็ไปได้สบาย ไม่เหนื่อยมาก ยิ่งพอขึ้นเขา ลุยฝน ถนนลื่นแล้ว คันนี้เกาะถนนได้เยี่ยม ช่วยได้เยอะ
แต่ความกินน้ำมันก็จะมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เลยมีส่วนทำให้วิตกอยู่เหมือนกัน สุดท้ายรถคันนี้ได้ทำให้ผมเห็นว่า
รถอีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ โฟร์วีลนี่ได้ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันด้วยครับ”

รถหมายเลข 03: รถอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู 3.0 VGS Turbo - เกียร์ออโตเมติก
ผู้ขับ : คุณธนวินท์ เปรมประยูรวงศา
อาชีพ : เจ้าของธุรกิจรถมือสอง
อัตราการใช้น้ำมัน 64.946 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 19.25 กม./ลิตร

“ผม เชื่อมั่นว่ารถอีซูซุมีสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมและปลอดภัยสูงอยู่แล้ว เพราะผมขับรถอีซูซุขึ้นเหนือล่องใต้เป็นประจำ
การเดินทางมาสิงคโปร์กับอีซูซุด้วยน้ำมัน 1 ถัง กับระยะทาง 1,250 กม. จึงเป็นภาระกิจที่ท้าทายอย่างมาก
ผมจึงไม่ลังเลในการตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเลย ผมได้นำเทคนิคการขับประหยัดน้ำมันที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมกับอีซูซุมา
ใช้ คือ การรักษารอบเครื่องให้สม่ำเสมอที่ 1500 – 1800 รอบ แม้ว่าจะเป็นทางเขาก็ยังสบาย เนื่องจากแรงบิดสูง
การทรงตัวเวลาฝนตกดีเยี่ยม เวลาเจอน้ำขัง ไม่มีอาการเซ หรือปัด เข้าโค้งนิ่ง
เพราะการตั้งรอบเครื่องและแรงบิดของรถอีซูซุมีความสมบูรณ์”

รถหมายเลข 04: รถอีซูซุดีแมคซ์ โรดีโอ 2.5 - เกียร์ธรรมดา
ผู้ขับ : คุณปฐมพงศ์ เทียนเงิน
อาชีพ : เจ้าของธุรกิจค้าขายเบ็ดเตล็ด
อัตราการใช้น้ำมัน 60.948 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.51 กม./ลิตร

“ตอน แรกไม่แน่ใจว่าเราจะทำได้รึเปล่า เพราะดูระยะทางและปริมาณน้ำมันแล้วไม่เคยคิดว่าน้ำมันถังเดียวจะวิ่งได้เป็น 1000 กม.
แต่ก็อยากทดสอบความสามารถของรถอีซูซุและการใช้ทักษะการขับประหยัดน้ำมันของ ตัวเองดู
เทคนิคที่ใช้เยอะที่สุดคือการขับความเร็วให้คงที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งผมก็นำเทคนิคการขับประหยัดน้ำมันต่างๆไปใช้ในชีวิตจริงเพราะถ้าขับได้
ประหยัดแบบนี้สักครึ่งนึงก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีก ยิ่งอาชีพค้าขายอย่างผม
ถ้ายิ่งบรรทุกหนักแล้วขับแรง กำไรที่เราจะได้มันก็หายไปครับ
อยากให้คนไทยทุกคนช่วยกันประหยัดน้ำมันนิดนึงครับ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเรา เงินของเราหรือเพื่ออนาคตของลูกเราก็ยังดีครับ”

รถหมายเลข 05: รถอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 2.5 - เกียร์ธรรมดา
ผู้ขับ : คุณกุลภาค กานต์โกศล
อาชีพ : พนักงานบริษัทเอกชน
อัตราการใช้น้ำมัน 58.372 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 21.41 กม./ลิตร

“กิจกรรม ครั้งนี้เป็นภารกิจที่ท้าทาย ส่วนตัวก็ยังไม่เคยขับมาไกลขนาดนี้ ยิ่งเป็นสิงคโปร์ด้วย
อยากจะรู้ว่าจะขับมาถึงจริงไหมก็เลยตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้ครับ
โดยส่วนตัวก็ใช้การขับประหยัดน้ำมันทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คือจะต้องเลี้ยงและเหยียบคันเร่งให้นุ่มนวลเป็นนิสัย
ใช้ความเร็วอยู่ที่ 70-90 กม./ชม. ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ผมเคยขับแต่รถอีซูซุรุ่นเก่าจึงเห็นว่ารถ อีซูซุรุ่นใหม่ๆ มีเกจ์วัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย
ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่า พฤติกรรมแบบไหนที่ทำแล้วสิ้นเปลืองน้ำมัน ก็จะค่อยๆ ปรับ
ถ้าได้ขับเป็นประจำจะปรับนิสัยให้ขับรถประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น”
รถหมายเลข 06: รถอีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ 3.0 - เกียร์ธรรมดา
ผู้ขับ : คุณมยุรี จึงเจริญทรัพย์
อาชีพ : พนักงานบัญชี รัฐวิสาหกิจ
อัตราการใช้น้ำมัน 51.925 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 24.07 กม./ลิตร

“รถที่ขับมาสิงคโปร์นี่เป็นรถอีซูซุรุ่นเดียวกับที่ใช้อยู่แล้วค่ะ มั่นใจเรื่องความประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว
รู้ว่าเติมน้ำมันเท่าไหร่แล้วจะวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ เลยมั่นใจว่าน่าจะไปได้ ไม่วิตกเรื่องระยะทาง
แต่วิตกเรื่องประเทศเพราะไม่เคยขับข้ามประเทศมาก่อน
วิธีขับประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆ ที่ใช้เป็นประจำคือ
ความเร็วรอบต้องเหมาะสม ยิ่งเวลาขึ้นเขาต้องรู้ว่าเร่งเท่าไหร่ถึงจะประหยัด
ขึ้นไปให้ได้ โดยที่ไม่ฝืนรอบ ขับทั่วไปใช้ความเร็วแค่ 80 ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มาก
ขับทางไกลมา 2 วัน รู้สึกว่ารถปิกอัพไม่ได้ต่างจากรถเก๋งเลย
โดยเฉพาะรุ่นนี้ คล่องตัว ออกตัวง่าย พวงมาลัยตอบสนองเร็ว ขับกลับกรุงเทพฯ ก็ยอม”

๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒

มิตซูบิชิส่งไทรทันไมเนอร์เชน ดีเดย์10สิงหาคม






มิตซูบิชิส่งไทรทันไมเนอร์เชน ดีเดย์10สิงหาคม

หลังจากที่เราได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการไมเนอร์เชนระลอกแรกของมิตซูบิชิ ไทรทัน(เปิดตัวในช่วงงานMotor Expo2008
เปิดตัวรุ่นPLUS Mega Cab,4WD Mega Cab,PLUS Double Cabเครื่องยนต์เบนซินและSingle Cab
ทั้งดีเซลและเบนซิน http://autothailand.blogspot.com/2008/12/25.html )แล้วมาถึงระลอก 2
(เปิดตัวในช่วงงานMotor Show2009เปิดตัวรุ่นขับเคลื่อน2ล้อทั้งMega Cab และ Double Cab
ทั้งเบนซินและดีเซล http://autothailand.blogspot.com/2009/03/7.html )
และวันนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมพร้อมกับการไมเนอร์เชนจ์ (เต็มตัว)
ของ มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ขึ้นโขว์รูมขายจริงทั่วไทย 10 สิงหาคมนี้


มิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นรถกระบะขนาดกลาง พิกัด 1 - 1.5 ตัน เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นโดย
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และทำการผลิตโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
ในฐานะรถกระบะสำหรับตลาดทั่วโลก (ยกเว้นอเมริกาเหนือ) ตาม 3 แนวคิดหลัก ทั้งเพื่อตอบสนอง
ความต้องการของผู้ใช้รถกระบะทั้งในแง่ของการประหยัดน้ำมัน ความแข็งแกร่งทนทาน และความมั่นใจ
ในการขับขี่ แนวคิดที่สองเพื่อนำเสนอรถกระบะคุณภาพซึ่งช่วยยกระดับและทำให้แบรนด์มิตซูบิชิ
ได้รับการยอมรับในระดับสากล มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแนวคิดที่สาม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ
พื้นฐานของลูกค้าโดยไม่จำกัด อยู่เฉพาะการใช้งานเพื่อการพาณิชย์เพียงอย่างเดียว

มิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ เดือน สิงหาคม 2005 และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
ทั้งในไทย และต่างประเทศ ในฐานะรถกระบะที่ให้สมรรถนะการขับขี่อันเป็นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัย ห้องโดยสาร
กว้างขวางกว่าคู่แข่งทุกคันในตลาด ลบภาพรถกระบะแบบเดิมๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกเพียงอย่างเดียว
ออกไปได้อย่างสิ้นเชิง หลังจากเปิดตัวมาแล้วกว่า 4 ปี ไทรทัน ทำยอดขายนับจากวันแรกจนถึงเดือนพฤษภาคม
2009 ที่ 84,364 คัน พร้อมกันนี้ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในภูมิภาคยุโรป อาเซียน และตะวันออกกลาง โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มียอดส่งออกไปยังทั่วโลกแล้ว
กว่า 430,000 คัน

ระหว่างนั้น มีการแนะนำ ไทรทัน รุ่นต่างๆ สู่ตลาดเมืองไทยมาแล้วถึง 26 รุ่น รวมทั้งการส่งรุ่นพิเศษต่างๆ
ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และกว่า 4 ปี ที่เราได้ศึกษา และเรียนรู้ตลาดจากการแนะนำรถรุ่นต่างๆ เหล่านี้
ทำให้ได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดภายหลังการพัฒนาและปรับปรุงมิตซูบิชิ ไทรทัน
ให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้นทาง บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะแนะนำมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่รวมทั้งสิ้น 13 รุ่น
สู่ตลาดเมืองไทย โดยอาศัยพื้นฐานของรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าซึ่งถือเป็นรุ่นที่สามารถครอบคลุม
และตอบสนอง ความต้องการการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน

ในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงได้ปรับปรุง และยกระดับมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ อีกครั้งเพื่อให้
สามารถแข่งขันในตลาดได้ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสถานการณ์ทางการตลาด
ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยออกแบบกระจังหน้า และล้ออัลลอยใหม่ และปรับปรุงการออกแบบภายใน
ตกแต่งคอนโซลหน้า และคอนโซลเกียร์ ด้วยสีเงิน รวมทั้งเบาะผ้าแบบใหม่ในรุ่น 2.5 GLS* อีกทั้งยัง
มีการเพิ่มอุปกรณ์และการตกแต่งเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นคอนโซลกลางขนาดใหญ่พร้อมที่วางแก้ว ที่เขี่ยบุหรี่
สามารถถอดเปลี่ยนตำแหน่งได้ และที่พักแขนสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์
แบบ 2 ชั้น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมาก

ด้านขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล ยังคงมีให้เลือกเหมือนเดิม ทั้งแบบ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล
เทอร์โบ 116 แรงม้า รุ่น 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 140 แรงม้า และ
เครื่องยนต์ 3.2 ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ซึ่งสามารถ
รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 (ตามมาตรฐานกรมธุรกิจพลังงาน) ได้

นอกจากนี้มีเครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ที่สำคัญยังสามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซออล์
E 20 (ตามมาตรฐานกรุมธุรกิจพลังงาน) ได้ด้วย

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีให้เลือกทั้งสิ้น 13 รุ่น พร้อมราคาขายเริ่มต้นที่ 404,000 บาท ถึง 929,000 บาท

1. Single Cab 2WD - 2.4 GL เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 404,000 บาท **
2. Single Cab 2WD - 2.5 GL เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 478,000 บาท **
3. Mega Cab 2WD - 2.4 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 546,000 บาท
4. Mega Cab 2WD - 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 576,000 บาท
5. Mega Cab PLUS - 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 615,000 บาท
6. Mega Cab PLUS - 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 664,000 บาท
7. Double Cab 2WD - 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 638,000 บาท
8. Double Cab PLUS - 2.4 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 715,000 บาท
9. Double Cab PLUS - 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 745,000 บาท
10. Double Cab PLUS - 2.5 GLS เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 784,000 บาท
11. Double Cab 4WD - 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 776,000 บาท
12. Double Cab 4WD - 3.2 GLS-LTD เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 890,000 บาท
13. Double Cab 4WD - 3.2 GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 929,000 บาท

* เฉพาะรุ่น PLUS และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
** สำหรับรุ่นสีเมทัลลิค ราคาเพิ่มอีก 7,000 บาท

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถชมและทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ
ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาและ
ช่วยเหลือประสานงานลูกค้ามิตซูบิชิ Customer Consulting Center โทร. 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์
พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS ในวันและเวลาทำการ